นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า โครงการประชารัฐสร้างไทยเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากไม่ตรงจุด เนื่องจากเกษตรกรไม่ได้ต้องการเงินทุนเพื่อการผลิต เพราะไม่มีตลาดรองรับการผลิต โดยยืนยันว่า มาตรการเศรษฐกิจฐานรากเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนในระดับล่างมีความเข้มแข็ง และสามารถผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าว เน้นทั้งการพัฒนาภาคการผลิต บริการ รวมถึงการสร้างตลาดเพื่อกระจายสินค้าเกษตรได้มากขึ้น และมาตรการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลมองเห็น
“แนวทางนี้รัฐบาลดูแลเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ต่อเนื่อง ซึ่งตรงนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประชาชนฐานรากมีพื้นฐานที่ดีในการวางรากฐานการผลิตและการตลาดที่เข้มแข็งให้กับเกษตรกร” นายอุตตม กล่าว
นอกจากนี้ ในงาน The Next Thailand 4.0 ทางออกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก นายอุตตม กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหาในขณะนี้ เชื่อว่าจะยังไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ไทยได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวด้วย เพราะแม้ล่าสุดธนาคารโลก จะให้ข้อมูลว่าไทยหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ต่ำแล้ว โดยถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างไปทางสูง แต่ไทยก็จำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในประเทศต่อไป
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างต้องเปลี่ยนจากการเน้นอุตสาหกรรมเดิมที่เป็นผู้ผลิตให้กับรายใหญ่ และได้มูลค่าการส่งออกสูง ควรจะปรับมาเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หรือผลิตสินค้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งต้องมีการพัฒนาบุคลากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่จะสนับสนุนให้เกิดในประเทศ ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำแบบองค์รวมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ
ขณะที่ภาคประชาชน ภาครัฐได้สร้างความเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสให้กับประชาชนระดับฐานราก โดยให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางของพื้นที่ต่างๆ เพื่อรวมกลุ่มให้ประชาชนระดับฐานรากมีผู้นำ โดยเฉพาะการนำการผลิตที่ให้มูลค่าสูง ที่ต้องลงไปเจาะดูตามพื้นที่เพื่อให้เกิดผลชัดเจน ว่าแต่ละพื้นที่มีจุดเด่นและความต้องการใดบ้าง โดยใช้ความแตกต่างกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนในส่วนของเงินช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปี ไร่ละ 500 บาทนั้น เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกษตรกรมีเงินช่วยเหลือในการต่อยอดการผลิต แต่ในอนาคตเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น การอุดหนุนเงินให้กับเกษตรกรจะลดลง เพราะเกษตรกรจะมีกำลังเพียงพอในการพัฒนาการผลิตเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรได้เอง ซึ่งก็จะทำให้ภาคการเกษตรแข็งแกร่งขึ้นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :