นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการดูแลผู้ที่อยู่ในเรือนจำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดว่า ได้สั่งการไปตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ว่ามีผู้ต้องขังที่มาจากต่างประเทศ ให้ดูแลเป็นพิเศษว่ามีเชื้อติดมาหรือไม่ ด้วยการคัดกรอง 

ส่วนการเยี่ยมผู้ต้องขังในช่วงนี้ได้ยกเลิกไปชั่วคราว ไม่ให้มีการเยี่ยมแบบใกล้ชิด แต่การเยี่ยมตามปกติยังคงมีเหมือนเดิม โดยผู้ต้องขังกับญาติจะอยู่ห่างกัน ติดต่อพูดคุยผ่านโทรศัพท์ จึงไม่น่ากังวล โดยญาติที่จะเดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังต้องสวมหน้ากากอนามัย 

สำหรับหน้ากากอนามัยในส่วนของกรมราชทัณฑ์นั้น มีทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเยี่ยม และมีหน้ากากผ้าที่เป็นฝีมือของผู้ต้องขังจำหน่ายให้กับประชาชน โดยผลิตได้เดือนละ 1 ล้านชิ้น ซึ่งได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว ว่ามีทั้งการแจกจ่ายและจำหน่ายคืออย่างละครึ่ง ส่วนเดือนหน้าหากยังมีความต้องการก็จะยังคงผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยใน 1 วันจำนวน 78 เรือนจำ สามารถผลิตได้ 45,000 ชิ้น

ไม่มีนักโทษติดโควิด-19

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีนักโทษหรือผู้ต้องขังเจ็บป่วยจากโควิด-19 เพราะมีการระมัดระวัง ซึ่งผู้ต้องขังที่อยู่ในที่ปิด จะดูแลได้ง่ายกว่าประชาชนที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกในพื้นที่เปิด หากจะติดเชื้อโควิด ก็น่าจะเป็นกลุ่มท้ายๆ

ส่วนการแก้ปัญหาของรัฐบาลเกี่ยวกับการรับมือโควิด-19 ที่ถูกโจมตีขณะนี้ ในลักษณะที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวดูสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งช่วงที่มีผีน้อยหรือแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลี ก็มีความวิตกกังวลกัน แต่เมื่อกลับมาแล้ว และกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด พบผู้ติดเชื้อไม่มาก ซึ่งตรงกันข้ามกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวตามปกติ หลายคนคิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่ก็พากันไปติด เช่น เข้าไปดูมวยในสนามมวย หรือกีฬาต่างๆ ทำให้ความคาดหวังหรือความเข้าใจในช่วงแรกผิดไป ดังนั้นขออย่าพึ่งให้คะแนนรัฐบาลว่าสอบได้หรือสอบตก แต่ให้รอฟังมาตรการต่างๆที่รัฐบาลจะประกาศออกมา ยืนยันไม่ได้ช้าเกินไป และรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานต่อแม้จะมีวิกฤตหนักหนาก็ตาม

ส่วนที่ฝ่ายค้านขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น

นายสมศักดิ์ เห็นว่า ไม่อยากให้สภาเป็นสถานที่ที่คนไปรวมกันเยอะในช่วงเวลานี้ เพราะอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ขอให้เว้นซักระยะ หากสถานการณ์เบาเเล้วก็น่าจะเปิดสภาได้ แต่ถ้าเปิดในเวลานี้ คน 500 คนมารวมกัน รัฐบาลไม่ต้องการให้คนจำนวนมากมารวมกัน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดต่อกัน ดังนั้นส่วนตัวเห็นว่าอย่าพึ่งเปิดประชุมสภาเลย ตนเป็น ส.ส.ยังคิดว่าน่ากลัว แต่ละวันทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้าน อย่ามัวไปดื่มไปเที่ยว ต่างคนแยกย้ายกลับบ้านดีกว่า