หลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทส (ศาลโลก) มีมติรับคำร้องของกัมพูชาและออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้องของกัมพูชากรณีพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหาร และนำไปสู่การแก้ปัญหาร่วมกัน
ซึ่งมีมติดังนี้ คือ 1.ให้ทั้งสองฝ่ายถอนทหารทั้งหมดออกจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร 2.ไทยจะต้องไม่ขัดขวางการเข้า-ออกพื้นที่ปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาที่ไม่ใช้กิจกรรมทางทหาร ไทยกับกัมพูชาต้องร่วมมือกันต่อไปภายใต้กรอบของอาเซียน 3.ให้ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฎิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่ได้สั่งไว้ข้างต้นจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินเกี่ยวกับการตีความคดีเมื่อปี2505
และวันนี้รายการ Hot Topic ร่วมพูดคุยกับผศ.ดร.ภาณุมาศ ขัดเงางาม เกี่ยวกับประเด็นคำสั่งศาลโลก ว่าไทยเสียเปรียบหรือได้เปรียบอย่างไร
อ.ภาณุมาศ กล่าวว่า ศาลโลกได้มีการพิจารณาเกินคำขอของกัมพูชา จึงทำให้กัมพูชาไม่พอใจและไม่ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากมติที่ว่าให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอนทหารออกจากบริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาไม่ได้ยื่นคำขอนั้นกับศาลโลก ส่วนประเทศไทยการถอนทหารหรือไม่ถอน ไม่มีส่วนเสียหรือส่วนได้แต่อย่างใด เนื่องจากคดีนี้เคยมีมาตั้งแต่ปี 2505 แล้ว และมติก็ออกมาเหมือนกัน อย่างไรก็ตามอ.ภาณุมาศ เชื่อว่า การถอนทหารออก ไม่น่าจะได้รับการปฎิบัติ โดยเฉพาะกัมพูชา
อ.ภาณุมาศ กล่าวอีกว่า ไทยควรจะเร่งรีบเจรจาแบบทวิภาคีกับกัมพูชา และเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาจะสามารถเจรจาได้ ไม่เช่นนั้นไทยอาจจะเสียผลประโยชน์ไปในที่สุด