Travel Marvel ประจำวันที่ 2 มกราคม 2558

'The Residence' คือชื่อของอพาร์ทเมนต์สุดหรู ขนาด 125 ตารางฟุต อันประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องน้ำในตัว อพาร์ทเมนต์นี้ มีความพิเศษมากกว่าอพาร์ทเมนต์แห่งอื่นๆ เพราะมันเป็นอพาร์ทเมนต์ลอยฟ้า ที่ตั้งอยู่ชั้นบนของเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ของสายการบินเอทิฮัด

'The Residence' ได้รับการขนานนามว่า "the world's most luxurious living space in the air" หรือสถานที่พักอาศัยที่หรูหราที่สุดในโลกที่อยู่ในอากาศ นอกจากเตียงนอนขนาด 82 นิ้ว ที่มีผ้าปูเตียงและปลอกหมอนที่จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษแล้ว ที่นั่งโดยสารภายในห้องนี้ใช้หนังอย่างดีจากแบรนด์  Poltrona Frau จากอิตาลี ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องหนัง และยังผลิตเบาะให้กับเฟอร์รารีอีกด้วย 

ผู้บริหารของเอทิฮัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวบริการดังกล่าว ทางสายการบินต้องการจับตลาดผู้โดยสารกลุ่มบนสุด ที่นิยมเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเป็นประจำ ซึ่งคนกลุ่มนี้ มักจะเลือกใช้บริการที่ดีที่สุด และสะดวกสบายที่สุดเสมอ และเพื่อเป็นการตอบโจทย์การเดินทางที่มากกว่าชั้น First Class เอทิฮัดจึงเกิดไอเดียที่จะจัดทำ 'The Residence' ขึ้นมา

ดีนา มารี อเวแนนท์ ผู้จัดการแผนกอบรมชั้น First-Class ของสายการบินเอทิฮัด ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริการดังกล่าวของทางสายการบิน ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะแข่งขันกับสายการบินคู่แข่งใดๆ แต่เอทิฮัด ต้องการยกระดับการให้บริการเทียบเท่ากับโรงแรม 5 ดาว ดังนั้น เราจึงต้องการแข่งกับโรงแรมชั้นนำระดับโลก ที่เคยได้รางวัลด้านการบริการสุด exclusive มาแล้ว

ไม่เพียงแค่ 'The Residence' เท่านั้น เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ลำนี้ ยังยกระดับการให้บริการในระดับรองลงมา โดยมีทั้ง First Apartments ในชั้น First Class และ Business Studios ในชั้น Business อีกด้วย โดย First Apartmentsนั้น ผู้โดยสารจะมีห้องโดยสารที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น กว้างขึ้น มีที่เก็บของมากขึ้น และมีจอทีวีทัชสกรีนที่ใหญ่ขึ้นด้วย ส่วน Business Studios ก็จะมีที่นั่งที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และสะดวกสบายมากขึ้น

สนนราคาของการเดินทาง และได้พักผ่อนใน 'The Residence' นั้น อยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์ หรือราว 657,000 บาท  สำหรับการเดินทางระหว่างอาบู ดาบี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษเพียงเที่ยวเดียวไม่รวมเที่ยวกลับ โดยปัจจุบัน เริ่มให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในปีหน้า สายการบินเอทิฮัดได้ตั้งเป้าจะขยายเส้นทางให้บริการเพิ่มเติม ไปยังนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และนครซิดนีย์ของออสเตรเลียอีกด้วย