เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ถือเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กจีน แต่ในปี 2019 นี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลจีนพยายามผลักดันแผนปฏิรูปการศึกษา

ช่วง 10กว่าปีที่ผ่านมา เด็กจีนยุคใหม่ประสบปัญหาเครียดและน้ำหนักเกินมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สาเหตุหนึ่งเกิดจากเด็กๆ ถูกผู้ปกครองกดดันให้เรียนหนังสือ จนไม่ได้เล่นหรือเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ตามวัย 

เมื่อต้นปี 2019 รัฐบาลจีนจึงประกาศว่าเด็กๆ จะต้องได้รับประสบการณ์ด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ตามตำรา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่นอกเหนือไปจากด้านความรู้และวิชาการ ทำให้ผู้ปกครองของเด็กจีนจำนวนมากพาลูกหลานของตัวเองไปเข้าร่วมคอร์สฝึกอบรมด้านสังคมและวัฒนธรรมต่างประเทศ

หนึ่งในคอร์สยอดนิยมขณะนี้ก็คือ 'มารยาทการเข้าสังคมแบบตะวันตก' ซึ่งสถาบันเหล่านี้จะมีชาวต่างชาติเป็นผู้ฝึกอบรมและเปิดโลกทัศน์ให้เด็กๆ เช่น กรณีของสถาบันสอนมารยาทแอลอีบีเอ (LEBA) ในกรุงปักกิ่ง จะสอนทั้งการวางตัวและมารยาทบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็กๆ ชาวจีน โดยคุณกีโยม รู เดอ แบร์นาดาก์ ผู้ก่อตั้งและครูผู้ฝึกสอนของสถาบันแอลดีบีเอมองว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างชาติจะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่เด็กๆ เหล่านี้ได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพราะจะทำให้เด็กๆ ข้าใจในแนวทางหรือธรรมเนียมที่เป็นสากลมากขึ้น

ส่วนผู้ปกครองชาวจีนที่พาบุตรหลานของตัวเองมาเรียนรู้เรื่องมารยาททางสังคมตะวันตก ให้เหตุผลว่า แม้แต่โรงเรียนเอกชนของจีนเองก็ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเรื่องมารยาททางสังคมหรือมารยาทในชีวิตประจำวันมากนัก และพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นเรื่องปกติในจีนก็ควรจะต้องเปลี่ยน เช่น เด็กๆ ส่วนใหญ่จะไม่สบตากันเวลาคุย ทำให้ดูเหมือนพวกเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ถ้าไปเข้าสังคมตะวันตกหรือเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะต้องปรับตัว เพราะฉะนั้น ถ้าได้เริ่มเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงที่เป็นเด็ก ก็จะทำให้การปรับตัวในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น

Anchor-ผู้ประกาศ

เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ถือเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กจีน แต่ในปี 2019 นี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลจีนพยายามผลักดันแผนปฏิรูปการศึกษา

Note: วิดีโอ Ruptly-Western Etiquette และ AFP-Chinese Pupils ใน f-server/web/บูม 

เทป อ่านต่อ

ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา เด็กจีนยุคใหม่ประสบปัญหาเครียดและน้ำหนักเกินมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สาเหตุหนึ่งเกิดจากเด็กๆ ถูกผู้ปกครองกดดันให้เรียนหนังสือ จนไม่ได้เล่นหรือเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ตามวัย 

เมื่อต้นปี 2019 รัฐบาลจีนจึงประกาศว่าเด็กๆ จะต้องได้รับประสบการณ์ด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ตามตำรา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่นอกเหนือไปจากด้านความรู้และวิชาการ ทำให้ผู้ปกครองของเด็กจีนจำนวนมากพาลูกหลานของตัวเองไปเข้าร่วมคอร์สฝึกอบรมด้านสังคมและวัฒนธรรมต่างประเทศ

หนึ่งในคอร์สยอดนิยมขณะนี้ก็คือ 'มารยาทการเข้าสังคมแบบตะวันตก' ซึ่งสถาบันเหล่านี้จะมีชาวต่างชาติเป็นผู้ฝึกอบรมและเปิดโลกทัศน์ให้เด็กๆ เช่น กรณีของสถาบันสอนมารยาทแอลอีบีเอ (LEBA) ในกรุงปักกิ่ง จะสอนทั้งการวางตัวและมารยาทบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็กๆ ชาวจีน โดยคุณกีโยม รู เดอ แบร์นาดาก์ ผู้ก่อตั้งและครูผู้ฝึกสอนของสถาบันแอลดีบีเอมองว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างชาติจะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่เด็กๆ เหล่านี้ได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพราะจะทำให้เด็กๆ ข้าใจในแนวทางหรือธรรมเนียมที่เป็นสากลมากขึ้น

ส่วนผู้ปกครองชาวจีนที่พาบุตรหลานของตัวเองมาเรียนรู้เรื่องมารยาททางสังคมตะวันตก ให้เหตุผลว่า แม้แต่โรงเรียนเอกชนของจีนเองก็ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเรื่องมารยาททางสังคมหรือมารยาทในชีวิตประจำวันมากนัก และพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นเรื่องปกติในจีนก็ควรจะต้องเปลี่ยน เช่น เด็กๆ ส่วนใหญ่จะไม่สบตากันเวลาคุย ทำให้ดูเหมือนพวกเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ถ้าไปเข้าสังคมตะวันตกหรือเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะต้องปรับตัว เพราะฉะนั้น ถ้าได้เริ่มเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงที่เป็นเด็ก ก็จะทำให้การปรับตัวในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น