กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GIจากสหภาพยุโรป ซึ่งสามารถใช้ตรา GI นี้ เจาะตลาดยุโรปได้มากขึ้น และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมนี้
สหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศใน EU Official Journalขึ้นทะเบียนกาแฟดอยตุงและดอยช้างของไทย เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (จีไอ) (Geographical Indication : GI) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา(58) และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมนี้
สินค้า GI ต้องมีลักษณะเฉพาะต่างจากสินค้าเดียวกันที่ผลิตในพื้นที่อื่น และต้องเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ คือ ดิน น้ำ และอากาศในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งกาแฟดอยตุง ปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงบนเทือกเขานางนอน จังหวัดเชียงราย ที่ระดับความสูง 800-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงมีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมมีเอกลักษณ์
ส่วนกาแฟดอยช้าง เป็นกาแฟอาราบิก้า ปลูกบนหุบเขาดอยช้างในตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ระดับความสูง 1,000-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเหมาะแก่การปลูกกาแฟอาราบิก้า และยังคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว การผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมหวานคล้ายน้ำผึ้ง รสกลมกล่อม
ปีที่แล้ว(57) ไทยส่งออกกาแฟถึง 700 ตัน มูลค่ากว่า 3 ล้าน 6 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกไปอียูกว่า 3 แสน 7 หมื่นดอลลาร์ฯ คิดเป็น 10% ของกาแฟที่ส่งออกทั้งหมด โดยกาแฟดอยช้างส่งออกปีละ 400 ตัน ทั้งในแคนาดา อังกฤษ อิตาลี ��าเลเซีย เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ส่วนกาแฟดอยตุง ส่งออกไปญี่ปุ่น เมื่อกาแฟทั้ง 2 ชนิด สามารถใช้ตรา GI จะทำตลาดในอียูได้มากขึ้น เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับตรา GI และพร้อมจ่ายเงินในราคาสูงขึ้นเพื่อบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพ
ปัจจุบัน ไทยขึ้นทะเบียนสินค้า GI แล้ว 70 รายการ จาก 53 จังหวัด เช่น ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ส้มโอนครชัยศรี มะขามหวานเพชรบูรณ์ และในปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ มีแผนจะขึ้นทะเบียน GI ในอีก 24 จังหวัดที่เหลือ
Source
- http://www.dc.co.th/?gclid=CjwKEAjwiZitBRCy0pb3rIbG9XwSJACmuvvzyIXDtGFyfoJyULDt471-MGHVL8AiK_pzEFWn-N-eqBoCIvnw_wcB
- https://www.facebook.com/doichaangcoffeeoriginal