รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand ชี้ชัด “ประยุทธ์” ตั้ง “ศูนย์บริหารเศรษฐกิจ” ที่สอดไส้กรรมการ 2 ชุด ดูจากโฉมหน้า ก็ล้วนเป็นคนคุ้นเคย “อ.วิโรจน์” ชี้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเอื้อพวกพ้อง ตั้งมาเพื่อกินเบี้ยประชุม เพราะตั้งแล้วตั้งอีก

สอดรับ “คำผกา” ชี้ “ประยุทธ์” ตั้งกรรมการซ้อนกรรมการ ส่อแววปัดความรับผิดชอบ โยนกันไป-มา ...ยิ่งฟังรัฐมนตรีใหม่โชว์วิสัยอันว่างเปล่า...ยิ่งหมดหวัง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ที่มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ” แบ่งคณะกรรมการเป็น 2 สองส่วน ส่วนแรก เป็นคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำหน้าที่จัดทำข้อเสนอและวางกรอบแนวทางการดำเนินการเศรษฐกิจจากหน่วยงาน / กำกับดูแล ควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ / คณะกรรมการ 22 คนประกอบด้วย นายกฯ เป็นประธาน, มีรองนายกฯ ที่รับมอบหมาย, มีรัฐมนตรีว่าการ 11 กระทรวง คือ ก.คลัง, ต่างประเทศ, ท่องเที่ยวและกีฬา, เกษตรและสหกรณ์, คมนาคม, ดีอีเอส, พาณิชย์, มหาดไทย, แรงงาน, อุตสาหกรรม และสาธารณสุข, มีผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนสภาหอการค้าไทย, สภาอุตสาหกรรมฯ, สมาคมธนาคารไทย มีเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ

อีกชุดคือ คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจ มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเร่งรัดการทำงานของหน่วยงานต่างๆ โดยมีอนุกรรมการอีก 3 ชุด ได้แก่ อนุ กก.วิเคราะห์และเสนอแนะในระยะเร่งด่วน, อนุ กก.วิเคราะห์และเสนอแนะบริหารเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาว และอนุ กก.วิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจรายสาขา เพื่อเสนอแนะในรายสาขา ที่มีเอกชนเป็นคณะทำงานด้วย กรรมการชุดนี้มีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม เป็นประธาน กรรมการประกอบก้วย ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการบีโอไอ เลขาธิการสภาพัฒน, ปลัดกระทรวงต่าง ๆ รวมทั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

นายสุพัฒนพงษ์ ปฏิบัติภารกิจแรกที่ทำเนียบรัฐบาล ด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เขาตอบว่า เป็นที่เข้าใจกันดีว่าทุกคนคาดหวังที่จะมีมาตรการใหม่ๆ มารองรับ แต่รายละเอียดทั้งหมด ขอรอความชัดเจนในสัปดาห์หน้า

นายสุพัฒนพงษ์ เผยอีกว่า ขณะที่นายกฯ มาทาบทาม ไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดของการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเพียงการพูดคุยกว้างๆ โดยเหตุผลที่ตัดสินใจเพราะเข้าใจปัญหาและเชื่อว่า หากมีโอกาสช่วยประเทศชาติได้ก็ยินดี ส่วนตัวเพิ่งเกษียณอายุและได้รับฟังปัญหา รับฟังสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเกิด ขึ้นทั้งโลก รวมถึงความไม่แน่นอน ถือว่าเป็นความท้าทาย ที่จะต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ และครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายแบบใหม่ เนื่องจากต้องปรับระบบการทำงานจากเอกชนมาเป็นงานราชการ จะพยามทำงานและทุ่มเทอย่างเต็มที่

นายสุพัฒนพงษ์ ยังเชื่อมั่นในนายกฯ ทั้งในฐานะหัวหน้าทีมรัฐบาลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เชื่อมั่นในครม.ทุกคน ส่วน ครม. จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในสายตาโลกหรือไม่นั้น คงเห็นเป็นที่ประจักษ์จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ไทยสามารถจัดการได้ดี ถือเป็นการพิสูจน์ว่าไทยดีและโดดเด่นกว่าอีกหลายประเทศ เลือกเส้นทางอย่างระมัดระวัง ถือเป็นความสามารถของ ครม. และนายกฯ ในการแก้ปัญหาได้อย่างดี

ต่อจากนี้จะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอย แต่ทุกคนต้องช่วยไม่ให้เกิดการระบาดของโรคอีกครั้ง เนื่องจากการแก้การระบาด จะทำให้เสียงบฯ และยิ่งทำให้เสถียรภาพทางการเงินการคลังของไทยด้อยลง เช่นเดียวกับที่นายกฯ กล่าวว่า รวมไทยสร้างชาติไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง

ส่วนข้อกังวลการชุมนุมจะกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ ยังเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น ขอรอดูก่อนว่าจะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงใด เชื่อว่าสุดท้ายจะราบรื่นไปได้ด้วยดี