รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 29 เมษายน 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand มอง “ประวิตร” ให้สัมภาษณ์” สยบปัญหาพรรคแตก บอกแค่ “จบแล้ว” หลังรอยร้าวในพรรคพลังประชารัฐ ที่ปูดออกมาจากสื่อฝั่งเนชั่น “อุตตม” ยังนั่งหัวหน้าพรรค ไม่มีเปลี่ยน...แต่แอดฯว่า บรรยากาศยังมาคุ
“อ.พิชญ์” มองไม่มี ส.ส.ในมือ ไม่สำคัญเท่า อยู่ใต้อาณัติ “ประยุทธ์-ประวิตร” และหลายคนยังมอง “ประยุทธ์” เป็นศูนย์กลางจักรวาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความวุ่นวายภายในพรรค ได้พูดคุยกันหรือไม่ ว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าปัญหาจบแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “จบแล้ว”
เมื่อถามย้ำว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มี” เมื่อถามว่าทำไมจึงมีคนอยากให้เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว
ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ไม่น้อยใจ เป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่ายึดมั่นถือมั่น ทุกอย่างอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ขอถามว่า ในช่วงสถานการณ์วิกฤตขนาดนี้มาคิดเรื่องการเมืองได้อย่างไร ทั้งที่วันนี้ต้องช่วยกันทำงาน เพื่อตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชน ให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ การที่จะมานั่งดึงเกมทางการเมือง ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรงนี้เป็นปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เองใช่หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงแต่ก็ต้องมีเรื่องของสามัญสำนึก ว่าวันนี้ควรทำเรื่องใดก่อน หลัง ซึ่งการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 คิดว่า รัฐบาลทำได้ดีขึ้นแล้ว จากนั้นต้องมาว่าเรื่องเศรษฐกิจ สร้างงาน ตรงนี้คือเรื่องที่มีความสำคัญ ชั่วโมงนี้ถ้ามาพูดเรื่องการเมือง ตนว่าคงไม่เหมาะสม ทั้งนี้นายกฯ เองก็ชัดเจน ว่าชั่วโมงนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง และคนที่จะตัดสินเรื่องนี้ ก็คือนายกฯคนเดียว ทั้งนี้ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับใครเพราะส่วนใหญ่ทำงาน ไม่ค่อยได้ไปยุ่งเกี่ยวในพรรค
“ผมไม่คิดว่า จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นในชั่วโมงนี้ คนที่ตัดสินเรื่องนี้ได้อยู่ที่นายกฯ เพียงคนเดียว ส่วนที่มีชื่อผมจะถูกปรับออกจาก ครม. ถึง 2 ครั้ง ส่วนหนึ่ง เพราะไม่มี ส.ส.ในมือ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ผมทำงานเพื่อประเทศ ไม่ได้ทำงานเพื่อพรรคอย่างเดียว เมื่อถึงวันหนึ่งที่ภารกิจผมจบ หรือถึงจุดหนึ่งที่นายกฯ บอกว่ามีคนที่เหมาะสม ผมก็ยินดีเสมอ พร้อมที่จะไปถ้านายกฯบอก ผมมาไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง ส่วนนายสุชาติ ที่มีชื่อว่าจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ อว. ต่อ เหมาะสมหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ประชาคมมหาวิทยาลัย จะตอบรับหรือไม่” นายสุวิทย์กล่าว