รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2563

“ใบตองแห้ง” ชวนจับตาดู “คลื่นใต้น้ำ” ในพรรคพลังประชารัฐ เชื่อหมดเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาเยอะแน่! ไม่จบง่าย ๆ ขณะที่ “ประวิตร” โยนบาปสื่อเข้าใจผิดเอง “พปชร.ยังไม่แตก” และบอก “จบแล้ว”

ขณะที่ “นฤมล” เขิน ไม่เคยได้ยิน “ปมจ่อนั่ง รมช.คลัง” ทั้งที่สื่อขยี้ประเด็นนี้มาทั้งสัปดาห์ …แถมงานนี้ นักวิเคราะห์ ขยี้ปมชง “การบินไทย” เข้าแผนฟื้นฟูเป็นไปตามกฎหมายล้มละลาย

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม.ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีปรารถในเรื่องดังกล่าว ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย การปรับ ครม.นั้นอำนาจอยู่ที่ตัวนายกฯ หากจะตัดสินใจต้องเป็นนายกฯ ช่วงเวลานี้คุยกันแต่เรื่องงานการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนเท่านั้น  เมื่อถามว่า กระแสที่มีชื่อนางนฤมลจะเป็น รมช.คลัง นางนฤมลกล่าวแบบเขินๆ ว่า “ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”

ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นางนฤมลกล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ มอบหมายให้ตนชี้แจงไปแล้ว ที่ผ่านมามีการพิจารณาสถานการณ์อย่างต่อเนื่องโดย ศบค. และมีการตัดสินใจผ่อนปรนเป็นขั้นตอน ข้อมูลเหล่านี้มีการวิเคราะห์ในทุกมิติ ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งนายกฯ ทราบดีว่ามีผลกระทบทางสังคม และเศรษฐกิจ จึงเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเยียวยา

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่สื่อที่ว่ากันไปเองทั้งนั้น   ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงข่าวการเคลื่อนไหวที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นข่าวลวงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่มีอะไรๆ  // เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร พร้อมที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเองตามที่เป็นข่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว และขึ้นรถเดินทางกลับทันที

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ใช้เวลาประชุมเพียง 1 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบจะเข้าแผนฟื้นฟู โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในวันที่ 19 พ.ค. วันนี้ขอให้รู้แค่นี้พอ ต้องให้เข้าฯ ครม.ก่อน จะวิพากษ์วิจารณ์ก่อนไม่ได้

เมื่อถามว่า แผนฟื้นฟูดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายล้มละลาย หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แผนการฟื้นฟูกับการล้มละลายเป็นคนละอันกัน อันนี้คือ เรื่องมาตรการการฟื้นฟู เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้มีการค้ำประกันเงินกู้แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที 

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า มติ คนร. มีความชัดเจนว่า การบินไทย ต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ แต่ไม่ใช่การล้มละลาย เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาศัย พ.ร.บ.ล้มละลาย แต่ไม่ใช่การล้มละลาย ซึ่งการฟื้นฟูกิจการอยู่ใน พ.ร.บ.ล้มละลาย ในหลักการ ก.คลัง ไม่ควรค้ำประกันเงินกู้ เพราะถือเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งหากคลังค้ำประกันเงินกู้ ก็จะไม่ต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟู

ส่วนหากเข้าสู่แผนฟื้นฟู จะทำให้บริษัทการบินไทย หลุดออกจากการเป็นรัฐวิสหกิจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตามขั้นตอน ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะการฟื้นฟูกิจการ จะต้องมีการตกลงกันระหว่างเจ้าหนี้ของการบินไทยกับผู้ทำแผนฟื้นฟู และเมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจของคณะกรรมการ จะหมดไป และอำนาจการบริหารจะเป็นของผู้ทำแผน ซึ่งศาลจะเป็นคนแต่งตั้งตามคำแนะนำของเจ้าหนี้ แต่ทั้งนี้แผนการฟื้นฟูกิจการต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้

ทั้งนี้ ตามหลักการแล้ว การฟื้นฟูกิจการ สำหรับบริษัท ที่มีหนี้สิ้นเยอะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ไม่ต้องหยุด หรือ ขายทอดทรัพย์สิน หากเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว การดำเนินการใดๆ ในบริษัทการบินไทย ต้องหยุดในทุกเรื่อง และเจ้าหนี้ไม่สามารถ มาเรียกขอชำระหนี้ได้

ส่วนจะกระทบกับพนักงานหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ กำไรขาดทุน และเส้นทางการบิน ซึ่งผู้ทำแผนจะต้องมีการพูดคุยตกลงกับพนักงานการบินไทยทุกฝ่าย ซึ่งผู้ทำแผนจะเปรียบเหมือนเป็น DD การบินไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ขั้นตอนเข้าสู่แผนฟื้นฟูการบินไทยในฐานะลูกหนี้ จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอจัดทำแผนฟื้นฟู ที่จะเสนอเข้า ครม.พิจารณาพรุ่งนี้ ( 19 พ.ค.63 ) ตาม ร่าง พ.ร.บ. ล้มละลาย เมื่อศาลรับคำร้องแล้ว จะมีการส่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เข้าไปดูแลกิจการ

จากนั้นลูกหนี้คือการบินไทย จะเสนอจัดทำแผนฟื้นฟูและผู้ทำแผน ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เมื่อเจ้าหนี้เห็นชอบตามแผนที่เสนอมา ศาลจะให้หาผู้บริหารใหม่ เพื่อบริหารการบินไทยแทนบอร์ดชุดเดิม โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นของ ก.คลังให้กองทุนวายุภักษ์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ของก.คลัง เข้าไปซื้อหุ้นแทน จะทำให้ การบินไทยหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ตาม พ.ร.บ .รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และ พ.ร.บ ว่าด้วยมาตรฐานคุณสมบัติ ของกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ