ไม่พบผลการค้นหา
การลาออก ของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16
รัฐเวชกรรมกับการควบคุมพลเมือง
รัฐเวชกรรมกับการควบคุมพลเมือง ตอน 2
ประวัติศาสตร์ว่าด้วย..ของต้องห้าม!! ในสังคมไทย
“วัฒนธรรมวาย” ที่ไม่ใช่เหล้าองุ่น แต่เป็นวายในงานวรรณกรรม
วัฒนธรรมการข่มขืน หรือ Rape Culture ตอนที่ 2
กรรมของคนมีลึงค์
สงครามระหว่างวัย
สลิ่ม
ตู้ทิ้งเด็ก หรือ ตะกร้ารับเด็ก
ประชาธิปัตย์ หรือ นีโอนาซี?
ประวัติศาสตร์ว่าด้วย..ของต้องห้าม!! ในสังคมไทย ตอน 2
พื้นที่ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตอนจบ
เมื่อผู้หญิงถูกข่มขืน ทำไมจึงเป็นความผิด...ของผู้หญิง
สงครามระหว่างวัย ตอน 2
กรุงเทพเมืองแห่งการอ่านปี 2556 ของจริง…หรือของปลอม...?
การบ้านของเด็กควรลด หรือ ยกเลิก
อนุสรณ์สถานที่ถูกลืม
เมื่อเซ็กส์...กลายเป็นภาระของชีวิต
ทาสคือใคร ใครคือทาส?
เด็กไทยไปโรงเรียนอย่างไร?
Mar 2, 2013 01:35

รายการคิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา วันเสาร์ที่  2  มีนาคม 2556
        
ความทรงจำเกี่ยวกับรถโรงเรียนที่เราเห็นบ่อยครั้งในภาพยนตร์ฮอลลีวูด จะมีรถสีเหลือง มาจอดรับนักเรียนหน้าบ้าน แต่เมืองไทยไม่มีเอกลักษณ์รถรับส่งนักเรียน ส่วนใหญ่ในต่างจังหวัด ผู้ที่ทำกิจการรถรับส่งนักเรียนจะเป็นครูสอนพลศึกษา ที่จะซื้อรถตู้ และเอาเด็กนักเรียนแถวบ้านขึ้นรถไปด้วย
              
ส่วนจังหวัดตามหัวเมืองเช่นเชียงใหม่ จะมีรถถีบสามล้อ ที่ทางผู้ปกครองจะจ้างรับส่งลูกหลาน หากมีบ้านไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก นอกจากนี้ยังมีรถตู้ ที่เป็นอาชีพเสริมของคุณครู คอยรับส่งนักเรียน ทำให้เด็กนักเรียนได้รู้จักบ้านเพื่อนแต่ละคน
    
สหรัฐอเมริกา ผู้ที่ดูแลรถรับส่งนักเรียนจะเป็นรัฐบาลท้องถิ่น  ส่วนญี่ปุ่นจะไม่มีวัฒนธรรมรถโรงเรียน แต่เด็กนักเรียนญี่ปุ่น จะเดินกันเป็นกลุ่มๆ จูงมือกันเป็นคู่ๆ ซึ่งเด็กที่เรียน ป.1-ป.2 สามารถขึ้นรถไฟได้ด้วยตนเองซึ่งเป็นการฝึกเด็กให้รู้จักโหนรถเมล์ ขึ้นรถไฟ และที่นั่นจะไม่มีการลุกที่นั่งให้แก่เด็กๆ เพราะถือว่าเด็กนั้นแข็งแรงอยู่แล้วและเป็นการฝึกความอดทนให้กับเด็กๆด้วย
               
รถโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตั้งแต่ปี  ค.ศ.1827  ซึ่งตรงกับ รัชกาลที่ 2  จะเป็นรถม้า ที่บรรจุเด็กได้  27 คนต่อมาในปี 1930  เริ่มมีสั่งทำรถรับส่งนักเรียน มีการทำผ้าม่านหน้าต่างในรูปแบบต่างๆขึ้น
                 
จากเว็ปไซด์ของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ( ศวปถ.) ได้รายงานโครงการศึกษาหาสาเหตุและแนวทางป้องกันอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนและการถอดบทเรียนรูปแบบการจัดบริการรถรับส่งนักเรียน  ที่มี ผศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ภาควิชาวิศวกรรมขนส่ง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย เป็นหัวหน้าคณะผู้วิจัย ได้รวบรวมข้อมูลอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียน พบว่าช่วงที่เกิดอุบัติมักเป็นช่วงเย็นคือเวลา 15.00-17.00 น.ถึงร้อยละ 76  ส่วนช่วงเช้า 06.00-08.00 น. ร้อยละ 24  โดยกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่าง อายุ 6-12 ปีถึงร้อยละ 71 ส่วนระดับมัธยม มีถึงร้อยละ  29  ดังนั้นได้มีการผลักดันให้ออกกฎหมายจัดระเบียบรถโรงเรียนขึ้นมาว่าต้องใช้สีเหลืองคาดดำ แต่โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากโรงเรียนไม่อยากรับผิดชอบหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นและผู้ปกครองนักเรียนก็ไม่นิยมใช้รถโรงเรียน
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog