ศรส.เป็นห่วงว่าผลจากคำตัดสินของศาลแพ่ง จะทำให้ประชาชน 2 ฝ่ายออกมาปะทะกันเอง ด้านเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผยหากสถานการณ์เลวร้าย อาจประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับใหม่
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ กรรมการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. แถลงผลการประชุม ศรส.ยืนยันจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่ง แต่ ศรส.มีความกังวลว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะเป็นสภาวะสูญญากาศการบังคับใช้กฎหมายนี้ ความขัดแย้งจะทวีความรุนแรง ประชาชนสองฝ่ายซึ่งต่างก็มีจำนวนมาก อาจกระทบกระทั่งกันเอง และวิตกว่า ผลจากคำพิพากษาของศาล จะทำกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมและยึดครองสถานที่ราชการ สถานที่เอกชนได้ตามอำเภอใจ
นอกจากนี้ ศรส.จะยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เอาผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นใช้วัตถุระเบิดและอาวุธปืนยิงทำร้ายตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมากจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างอุทธรณ์คำตัดสินศาลแพ่ง อาจจำเป็นต้องประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงแทน และหากสถานการณ์เลวร้าย ก็อาจประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับใหม่ เพื่อให้สภาพบังคับที่ศาลห้าม 9 ข้อหมดไป
ด้านร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ ระบุว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุม เดินทางเข้ามาในสโมสรตำรวจวันนี้ ไม่ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องในหน้าที่ แต่เพราะคำสั่งศาลแพ่ง ผู้ชุมนุมสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ และนี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าจะนำไปสู่การชุมนุมที่รุนแรงมากขึ้น