'ภราดร' อาจใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ หลัง กปปส. ยุบรวมเวที
หลังกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ยุบรวมเวที เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีในการวางกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รักษาความปลอดภัย ซึ่งหากสถานการณ์เบาบางลง ในสัปดาห์หน้าอาจจะมีการปรับมาใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะเลขา ศรส. เปิดเผยถึง การยุบรวมเวทีของ กปปส. ว่า น่าจะเป็นการยุบรวมเพื่อปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการต่อสู้ใหม่
ซึ่งอาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมชุมนุมให้ดีกว่าเดิม ซึ่งทาง ศรส.จะประเมินสถานการณ์การชุมนุมแบบวันต่อวัน การยุบรวมเป็น 1 เวทีแล้วนั้น หากสถานการณ์เบาบางลงในสัปดาห์หน้า อาจจะมีการปรับมาใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
สำหรับกรณีที่ กปปส. ประกาศว่าจะยุติการชุมนุมภายในเดือนมีนาคมนั้น พลโทภราดร กล่าวว่า อาจเป็นเพราะแกนนำ กปปส. คาดการณ์ว่า จะมีผลการวินิจฉัยชี้ขาดบางเรื่องบางอย่างออกมาจากองค์กรอิสระ
ส่วนเหตุการณ์ลอบยิงบ้าน คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ แม่ของ นางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานเรื่องนี้มายัง ศรส.แล้ว คาดว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แต่ทางตำรวจยังไม่ตัดทิ้งประเด็นอื่น โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตรับผิดชอบของ ศรส. จึงต้องรอให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งอยู่ในเขตความรับผิดชอบประเมินต่อไป
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวประณามการใช้ความรุนแรงกรณีคนร้ายยิงถล่มบ้าน คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ แม่ของ นางทยา โดยขอให้ตำรวจเร่งหาคนผิดมาลงโทษ
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ ระบุ พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง และเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือกลุ่มมือที่ 3 ที่ต้องการซ้ำเติมสถานการณ์ความแตกแยกเพิ่มมากขึ้น