ขณะที่ทั่วโลกปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซี แต่ภาคเอกชนญี่ปุ่นเดินหน้าตั้งบริษัทศูนยก์กลางการเเลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล หวังเป็นฮับด้านคริปโตเคอร์เรนซีอีกแห่งของโลก

แม้ว่าที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อเรื่องของการนิยมใช้เงินสดมากกว่าการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าความนิยมในคริปโตเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัลจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะสกุลเงินบิทคอยน์ ที่มีชาวญุ่ปุ่นทั้งวัยรุ่นและผู้ที่คลุกคลีอยู่ในในวงการการเงินไม่น้อยที่หันมาลงทุนในบิทคอยน์เมื่อปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาบิทคอยน์ทยานขึ้นสู่จุดสูงสุดที่เกือบ 20,000 ดอลลาร์ต่อหน่วยช่วงปลายปี 2017 สร้างปรากฏการณ์การเพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่าของราคาต่อหน่วยภายใน 1 ปีเท่านั้น แม้ราคาล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้จะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 11,328 ดอลลาร์ก็ตาม

Nikkei Asian Review รายงานว่าแม้ขณะนี้ทั้งจีน เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศจะกำลังกวาดล้างการซื้อขายแลกเปลี่ยนบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากความผันผวนที่สูงของค่าเงินซึ่งอาจส่งผลเสียรุนแรงกับระบบเศรษฐกิจดั้งเดิม แต่ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นได้ก้าวมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเทรด หรือการซื้อขายเงินเยน-บินคอยน์สูงที่สุดในโลก โดยล่าสุดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในญี่ปุ่นนั้นสูงถึง 40% ของการแลกเปลี่ยนทั้งโลก

อัตราการเเลกเปลี่ยนระหว่างเงินเยนเป็นบิทคอยน์นั้นอาจพุ่งสูงขึ้นอีกในอนาคต หากว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจลดความเข้มงวดในการควบคุมการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆมากขึ้นกว่าเดิมอีก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลรัฐบาลญี่ปุ่นก็พยายามอย่างยิ่งที่จะป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพื่อรักษาทั้งผลประโยชน์ของนักเทรดบิทคอยน์ ผู้บริโภคทั่วไป และระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ภาคเอกชนในญี่ปุ่นมีการตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัดไม่แพ้ฝรั่งอเมริกาและยุโรป เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งอย่างเช่น บริษัท Internet Initiative Japan ผู้ให้บริการด้านโครงข่ายโทรศัพท์ของญี่ปุ่นก็เพิ่งจะเปิดตัวบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อการเเลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลโดยเฉพาะ

พร้อมได้จับมือกับบรรษัทรายใหญ่ทั้งหมด 8 แห่งของญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เช่นธนาคารใหญ่อย่าง Tokyo-Mitsubishi UFJ และ Su-mi-to-mo Mit-sui บริษัท Ya-ma-to Holdings ผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า รวมถึง Bic Camera บริษัทผู้ค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น 

ซึ่งนอกจากความตั้งการในการเป็นศูนย์กลางและเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ยังมีแผนการขยายกิจการไปสู่การเป็นเพย์เมนท์เกตเวย์ หรือ ผู้ให้บริการการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล พร้อมให้บริการตุลาคมนี้

LINE ในฐานะที่เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้รายเดือนอยู่ที่จำนวน 168 ล้านคนในญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย และยังเป็นผู้นำเหนือแอปพลิเคชันอื่นๆในกลุ่มประเทศนี้อีกด้วย ขณะนี้ LINE กำลังพยายามที่จะผสมผสานโมเดลธุรกิจยุคใหม่ของทางบริษัทเข้ากับนวัตกรรมสกุลเงินดิจิทัล 

Crypto News Bytes รายงานว่าในอนาคตอันใกล้ เรากำลังจะเห็นความร่วมมือของไลน์และบริษัทผู้ให้บริการและเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลจากประเทศเกาหลีใต้อย่างบริษัท UpBit อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างความแข็งแกร่งด้านการเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในฐานะแพลทฟอร์มทางการเงินนอกเหนือจากที่ปัจจุบันมีการให้บริการ LinePay อยู่แล้ว แต่จะไม่มีการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของไลน์ขึ้นมาเอง สิ่งที่ไลน์จะทำก็คือการจับมือกับบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับด้าน Cryptocurrency และ Blockchain

นอกจากสกุลเงินดิจิทัลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้ก็คือเรื่องของ ICO ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ของโลกที่เกิดจากเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งทำให้มีสิ่งที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีนี้อย่างแรก คือ Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิตอล และสกุลเงินแรกคือ บิทคอยน์ (Bitcoin) ต่อมาจึงเริ่มถูกนำมาใช้ในการระดมทุนที่ไม่ใช่หลักทรัพย์ จนกระทั่งมาสู่การ ***ระดมทุนของตราสารที่เป็นหลักทรัพย์*** ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล