รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 18 เมษายน 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand สงสัย? ทำไม พปชร. ถึงปล่อยให้ พวก ส.ต. หรือ สอบตก ส.ส. มาทำคะแนน โดยเฉพาะ “แรมโบ้อีสาน” ยิ่งพูดพรรคยิ่งติดลบ ปมราวี “จึงรุ่งเรืองกิจ” ทั้งที่ “แม่สมพร” ก็เอาเงินตัวเองมาแจกจ่ายช่วยคนช่วยกักตัว โยงไปถึงเรื่องการเมือง หาว่าหวังผลเลือกตั้ง ทั้งที่ “ธนาธร” ถูกตัดสิทธิ์ไปตั้ง 10 ปี
กรณีที่มีข่าวว่า นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะไปแจกเงินให้ประชาชน บริเวณซอยวัดด่าน จ.สมุทรปราการ วันนี้ (18 เม.ย.63) ต่อมานางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานมูลนิธิไทยซัมมิทพัฒนา และบุตรสาวคนโตของนางสมพร โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม มูลนิธิฯ ไม่มีแผนแจกเงินในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมฝากคนปล่อยข่าวว่า อย่าซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ที่ตอนนี้ลำบากกันมากอยู่แล้ว อย่าเอาความทุกข์ของประชาชนมาเล่นการเมือง โจมตีทางการเมืองแบบนี้”
ขณะที่ นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวิตข้อความ และคลิป ระบุว่า “ทำไมถึงทำแบบนี้ได้คะ ที่มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการแจกเงิน บ้าง ลือว่าคุณสมพรแจก บ้างลือว่าก้าวไกลแจก ให้ประชาชน 2,000 คนไปยืนรอ ร้อน เสี่ยงติดโรค ทางพวกเราก็งง มีคนทักมาถามกันมากมาย #คนที่กุข่าวนี่ใจร้ายมากนะ #อย่าเอาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนมาโจมตีกันทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ นางสมพร นำทีมมูลนิธิฯ มอบเงินช่วยเหลือประชาชนครัวเรือนละ 2,000 บาท พร้อมหน้ากากอนามัย และข้าวสาร ให้กับชาวชุมชนหนามแดง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จำนวน 500 ครัวเรือน
ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมมองในเจตนาดีก่อนว่า ในวิกฤติไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ใครช่วยประชาชนต้องชื่นชมในน้ำใจของคนไทย ที่ไม่ทิ้งกัน ที่ผ่านมาเราเห็นภาคเอกชนและประชาชนจำนวนมาก มีจิตอาสาออกมาช่วยกันเสียสละทุ่มเทช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้คลายความเดือดร้อนจากภัยวิกฤติไวรัสที่กำลังแพร่ระบาด การช่วยกันทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยกย่อง ควรได้รับเสียงปรบมือในความมีน้ำใจเสียสละช่วยคนไทยด้วยกันยามทุกข์ยากยามมีภัย นี่คือหัวใจคนไทยที่ไม่มีวันทอดทิ้งกันและกัน
กรณีของนางสมพร ถ้ามิได้หวังผลแอบแฝงทางการเมือง เพื่อช่วยใคร หรือเพื่อช่วยพรรคการเมืองใดก็ถือว่า เป็นการทำความดี แต่บังเอิญว่า นางสมพร เป็นมารดาของ นายธนาธร นักการเมืองดัง เจ้าของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว และไปตั้งพรรคก้าวไกล และบังเอิญอีกว่า เป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกล อยู่ 1 คน / ขณะที่อำเภอบางพลี เป็นท้องที่เขตเลือกตั้งของ ส.ส.กรุงศรีวิไล สุทินเผือก พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกใบเหลือง รอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินว่า จะต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ และก็บังเอิญอีกที่มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ อยู่ในพื้นที่นี้ด้วย
หากการกระทำของ นางสมพร เป็นการกระทำเพื่อปูทางหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคก้าวไกลเช่นนี้ การกระทำดังกล่าว อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะว่าเขตบางพลี อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอนาคตซึ่งต้องรอผลศาลฯตัดสิน
ถ้านางสมพรฯ มิได้มีเจตนาแอบแฝง หรือหวังผลทางการเมือง ก็ไม่ควรมุ่งเป้าในพื้นที่อำเภอบางพลีนี้จุดเดียว ควรจะกระจายความช่วยเหลือคนเดือดร้อนไปให้ทั่วๆ ในหลายจังหวัด ถึงแม้จะเป็นเขตเลือกของ ส.ส.พรรคใดจังหวัดใดก็ตาม / ถ้ามีความตั้งใจช่วยด้วยใจจริงก็ควรไปช่วยด้วย ไม่ควรเลือกจุดพื้นที่ที่มีเป้าหมายหวังผลทางการเมือง เพราะวันนี้เราคนไทยด้วยกันไม่มีเวลามาคิดการเมืองแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นของพรรคโน้นพรรคนี้แล้ว เพราะทุกคนคือคนไทยด้วยกันมิใช่หรือ ความเสียสละที่จะต้องช่วยกันทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบไวรัสโควิด-19 คือเป้าหมายที่พวกเราต้องช่วยกันอย่างแท้จริงไม่มีเวลามาเล่นแบ่งพรรคแบ่งพวก แยกขั้วแยกฝ่ายการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นในยามที่ประเทศมีวิกฤตินี้ครับ
หรือคุณสมพร ถ้าจะบริจาคสนับสนุนก็สามารถติดต่อผ่านหน่วยงานรัฐ หรือส่วนราชการ หรือนำอุปกรณ์ต่างๆ ไปมอบให้โรงพยาบาลที่หมอ และพยาบาลที่ขาดแคลนจะไม่ดีกว่าหรือ ไม่ใช่มาให้ลูกน้องถ่ายคลิปแจกเงินโชว์ในโซเชียลเช่นนี้ ดูแล้วไม่สบายในสายตาคนชมเลย ตนจึงขอแนะนำว่าควรจะไปช่วยในพื้นที่อื่นๆด้วยเพื่อมิให้ใครมองว่ามีเจตนาช่วยพรรคก้าวไกลที่มีนายธนาธร และคุณสมพรฯ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังใกล้ชิดกับพรรคดังกล่าวนี้
“ผมไม่อยากให้ใครก็ตาม เอาความเป็นความตายของประชาชน ฉกฉวยวิกฤติเป็นโอกาสของตนเอง เพื่อหวังผลทางการเมือง ควรทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์มีจิตใจที่เป็นกุศลเพื่อช่วยประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระทำความดีและเป็นตัวอย่างให้คนในสังคมไทยได้ดูเป็นแบบอย่างการเสียสละตอบแทนกลับคืนสู่สังคมโดยไม่ได้หวังผลทางการเมืองให้กับครอบครัวและเครือข่ายพรรคการเมืองของลูกชายตนเอง ซึ่งในยามนี้ประเทศชาติต้องการความร่วมมือจากทุกๆฝ่าย ต้องการความสมัครสมานสามัคคีความเสียสละจากคนไทยทุกคน พวกเราพวกท่านควรหยุดคิดและหยุดพักกิเลสทางการเมือง ควรพับเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อน เพื่อทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นผ่านวิกฤติไปด้วยกันจะได้ไหมครับ” นายสุภรณ์กล่าว