รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand มอง “เจ้าสัว” ช่วยคน หรือสนับสนุนแก้โควิด-19 ผ่าน CSR ตั้งนานแล้ว โดยที่ “บิ๊กตู่ – รัฐบาล” ไม่ได้หน้าเลย
“อ.พิชญ์” แนะอยากให้เจ้าสัวช่วย ต้องมีแผนยุทธศาสตร์ชัดเจน “อ.วิโรจน์” ก็ยกบทวิเคราะห์ ชี้ถ้าอยากฟื้นฟูเศรษฐกิจควรผนึก SME ทำให้ลงไปให้ถึง ฐานล่าง และจี้ให้เลิกบริหารงานแบบเดิม ระวังเจ้าสัวจะไม่ช่วยอีกแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อวันก่อน ผมเริ่มไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อรับฟังสถานการณ์ ความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะด้วยตัวของผมเองโดยตรง เพิ่มเติมจากที่หน่วยงานของภาครัฐที่ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยตามที่ผมเคยกล่าวไว้ว่าวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ ใหญ่และซับซ้อนมาก
หน้าที่ของเราคือต้องต่อสู้ไปด้วยกันแบบเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เราต้องร่วมมือกัน ทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มธุรกิจ และทุกคนผมขอขอบคุณ คุณวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว คุณไพรัตน์ ห่านศรีสุข คุณสุรวัช อัครวรมาศ คุณพรทิพย์ หิรัญเกตุ คุณมิ่งขวัญ เมธเมาลี และดร.สุมาลี ว่องเจริญกุล สำหรับข้อมูลที่ดี และมีประโยชน์สำหรับผม"
ขณะที่ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมไทม์ไลน์ บรรดามหาเศรษฐีไทย ตอบรับนายกรัฐมนตรี ร่วมช่วยเหลือในวิกฤติโควิด-19 มีรายงานว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งเครือซีพี ส่งจดหมายตอบกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการให้ความช่วยเหลือประเทศว่า ได้วางแผนโครงการต่างๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท เช่น ตั้งโรงงานหน้ากากอนามัยแจกฟรี โครงการมอบอาหารต้านภัยโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ แจกอุปกรณ์สื่อสารให้โรงพยาบาล ให้ดาต้า หุ่นยนต์ ซิมอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
ขณะเดียวกันมีโครงการที่วางแผนดำเนินการเพิ่มเติม คือ โครงการพัฒนาแหล่งระบบชลประทานเป็นแก้มลิง 4.0 โครงการเกษตรผสมผสาน โครงการต้นแบบ 4 ประสานเพิ่มรายได้เกษตรกร โครงการแพลตฟอร์มออนไลน์ เรียนทางไกลและแพทย์ทางไกล และโครงการวิจัยสู้ภัยโควิด-19 ทั้งวิจัย Test kit, วัคซีน และยารักษาโรค
นอกจากนี้ ซีพียังมีโครงการที่เสนอแนะรัฐบาล คือ มาตรการด้านดิจิทัลยุควิถีชีวิตใหม่ (New Normal) มาตรการดึงดูดคนเก่ง ผู้เชี่ยวชาญมาอยู่เมืองไทย (Talent Attraction) มาตรการช่วยเหลือด้านท่องเที่ยวสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น และ 5.มาตรการปฏิรูประบบชลประทานให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตร 100%
ขณะที่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส และกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ภายใต้ BDMS เปิดเผยเป็นรายแรก ๆ ว่า อยากช่วยรัฐบาลเรื่องปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยต้องการนำร่องที่จังหวัดสุโขทัย เพราะใต้ดินมีน้ำมาก สามารถนำมาใช้เพื่อการเกษตรกรรมได้ โดยตั้งงบฯ ไว้ให้ท้องถิ่นราว 100 ล้านบาท พร้อมเครื่องมือ และรถแบ็กโฮ ให้มาใช้ได้ มีแนวคิดคือ เมื่อแต่ละจังหวัดมีน้ำใช้เพียงพอ เกษตรกรก็สามารถจะจับปลาไปขาย และมีน้ำไว้ทำนาปรัง นอกเหนือจากที่ สายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส ช่วยรับส่งบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางรักษาคนไข้ติดเชื้อในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะที่ภูเก็ต
ด้านครอบครัว “อยู่วิทยา” เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง ตอบว่า นอกจากช่วยเหลือจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ มอบให้โรงพยาบาล อาทิ รพ.ศิริราช จุฬาลงกรณ์ รามาธิบดี รวมมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ยังมอบทุน 300 ล้านบาท ทำโครงการ “พึ่งตน เพื่อชาติ” สร้างเศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนและเป็นพี่เลี้ยง ช่วยคนไทย 1 ล้านคนที่ตกงาน ให้พ้นวิกฤติ
ขณะที่ “ประยุทธ์ มหากิจศิริ” ประธานกลุ่มบริษัท พีเอมส์ กรุ๊ปส์ เจ้าของบริษัทไทย-น็อคซ์ สเตนเลส และไทยคอปเปอร์ หรือเจ้าพ่อเนสกาแฟ ได้ตอบกลับนายกรัฐมนตรีว่า ได้บริจาคให้สภากาชาดไทยและสถานศึกษาสร้างหอปฏิบัติธรรม และสนับสนุนเกษตรกรไทย รวม 150 ล้านบาท
และยังมีแผนช่วยเหลือเกษตรกร คือ การรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร เช่น รับซื้อลำไยจากเกษตรลำพูน 1,000 ครัวเรือน เป็นเวลา 6 เดือน, รับซื้อสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนลำพูนหรือเกษตรกรแปลงใหญ่ 5,000 ครัวเรือน เป็นเวลา 6 เดือน เป็นต้น