ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'Crazy Rich Asians' จุดกระแสนักแสดงนำชายชาวเอเชีย - Short Clip
World Trend - ออสการ์ประกาศสมาชิกใหม่ 842 คน - Short Clip
World Trend - ผู้สร้างเตรียมผลิตเรื่องราว '13 หมูป่า' ฉายทาง Netflix​ - Short Clip
World Trend - Searching ตอกย้ำความสำเร็จชาวเอเชียในฮอลลีวูด? - Short Clip
World Trend - อินโดนีเซียพร้อมจัดพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ - Short Clip
World Trend - 'Crazy Rich Asians' กวาดรายได้สุดสัปดาห์แรกทำลายสถิติ - Short Clip
World Trend - โทรศัพท์สแปมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ - Short Clip
World Trend - ทรัมป์ค้านฝรั่งเศสเก็บภาษีบริษัทไอที - Short Clip
World Trend - รายได้หนังกับการเข้าชิงออสการ์ 'นำชาย' ปีนี้ - Short Clip
World Trend - ​บริษัทเกมช่วยส่งวัตถุโบราณคืนพิพิธภัณฑ์ - Short Clip
World Trend - ผู้หญิงญี่ปุ่นสอบเข้าแพทย์ได้มากกว่าผู้ชาย - Short Clip
World Trend - ผู้ถูกรังแกในที่ทำงานเสี่ยงหัวใจวายกว่าคนทั่วไป - Short Clip
World Trend - มหาเศรษฐีโลกรวยขึ้นวันละ 2,500 ล้านดอลลาร์ - Short Clip
World Trend - อาลีบาบาขึ้นแท่นแบรนด์มูลค่าสูงสุดในจีน - Short Clip
World Trend - ​'ลำโพงอัจฉริยะ' เป็นที่นิยมในห้องนั่งเล่นมากที่สุด - Short Clip
World Trend - ​'วอร์เนอร์บราเธอส์' จ้างซีอีโอหญิงคนแรก - Short Clip
World Trend - บริษัทต่างชาติพึ่ง 'อาลีบาบา' เพื่อผลิตสินค้าโดนใจชาวจีน - Short Clip
World Trend - 'อ้ายฉีอี้' เล็งจับตลาดนอกจีน - Short Clip
World Trend - สินค้าปลอมในอาเซียนเติบโตในระดับน่าตกใจ - Short Clip
World Trend - 'กูเกิลทรานสเลต' ใช้เอไอแปลออฟไลน์ได้ 59 ภาษา - Short Clip
World Trend - Crazy Rich Asians กับก้าวสำคัญของฮอลลีวูด - Short Clip
Aug 2, 2018 16:31

Trend Talk วันนี้ เราจะมาพูดคุยถึงภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายในสหรัฐฯ และในประเทศไทยอย่าง Crazy Rich Asians ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงผลงานที่สร้างจากนิยายขายดีเท่านั้น แต่กระบวนการสร้างทั้งหมดยังสะท้อนให้เห็นถึงก้าวกระโดดที่สำคัญของฮอลลีวูด ในการเปิดรับความหลากหลายทางเชื้อชาติด้วย

Crazy Rich Asians เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี ที่สร้างจากนิยายขายดีติดอันดับ นิวยอร์กไทม์ส เบสต์เซลเลอร์ ได้รับการแปลไปแล้ว 12 ภาษา โดยภาษาไทยเป็นภาษาเอเชียภาษาที่ 2 ที่ได้รับการแปล ต่อจากภาษาบาฮาซา ของอินโดนีเซีย 

Crazy Rich Asians เวอร์ชันนิยายได้ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า 'เหลี่ยมโบตั๋น' ทำให้เวอร์ชันภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ใช้ชื่อนี้ด้วย เล่าถึงความรักของหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่เติบโตที่ประเทศตะวันตก โดยฝ่ายหญิงเป็น American Asian ฝ่ายชายเป็น Asian Asian และยังเป็นลูกชายจากตระกูลดังและร่ำรวยของสิงคโปร์ด้วย ซึ่งทำให้การขอแฟนสาวแต่งงานและการพาเธอกลับมาพบครอบครัว นำไปสู่ความวุ่นวายมากมาย

ความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเป็นผลงานของฮอลลีวูดเรื่องแรกในรอบ 25 ปี ที่โฟกัสเนื้อหาเกี่ยวกับคนเอเชีย และการตัดสินใจผลิตงานชิ้นนี้ขึ้นมาก็เกิดขึ้นในช่วงที่มีกระแส Oscars So White ที่สะท้อนความไม่หลากหลายทางเชื้อชาติในฮอลลีวูดด้วย

แม้ว่าเจ้าของบทประพันธ์ ผู้สร้าง และนักแสดง จะอยากให้โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นแค่ไหน และการสร้างผลงานจะมีผลต่อการนำเสนอความหลากหลายของฮอลลีวูดเท่าใด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพยนตร์จำนวนมากที่เข้าโรงฉายทุกวันนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง ทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และรายได้ ซึ่งก็ยิ่งทำให้ Crazy Rich Asians ที่เล่าเรื่องประเด็นของคนเอเชีย โดยตัวละครหลักเป็นชาวสิงคโปร์ กลายเป็นผลงานที่ 'ไม่แมส' และเสี่ยงจะไม่ทำรายได้

ทางเลือกหนึ่งของเจ้าของผลงานในลักษณะนี้ก็คือ การขายลิขสิทธิ์ให้ค่ายสตรีมมิง เช่น เน็ตฟลิกซ์ หรือแอมะซอน ที่อาจพิจารณาขายลิขสิทธิ์ให้เข้าฉายในบางประเทศต่อไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาพยนตร์ที่เข้าระบบของเน็ตฟลิกซ์มักไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์

ทางเลือกที่ว่าเป็นโอกาสที่ทีมงานของ Crazy Rich Asians ได้รับเช่นกัน โดยผู้สร้างต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการรับเงินก้อนใหญ่ แล้วให้ลิขสิทธิ์เน็ตฟลิกซ์ไปฉาย หรือให้ลิขสิทธิ์ค่ายวอร์เนอร์บราเธอร์สไปเข้าโรงฉาย แล้วรอลุ้นรายได้จากการจำหน่ายตั๋ว ซึ่ง 'เควิน ควาน' ผู้เขียนนิยาย ระบุว่า ถ้าเขารับเงินจากเน็ตฟลิกซ์ เขาจะสามารถพาตัวเอง ย้ายไปอยู่เกาะสักแห่ง แล้วไม่ต้องทำงานตลอดชีวิตเลย

แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ทีมงานเลือก และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตคิดว่า Crazy Rich Asians ควรสร้างหมุดหมายที่สำคัญขึ้นในฮอลลีวูด และเป็นผลงานที่เหมาะจะนำเสนอบนจอใหญ่มากที่สุด

ส่วนหนึ่งที่ทำให้การตัดสินใจเป็นไปในทิศทางนี้ก็คือ ความสำเร็จของภาพยนตร์นอกกระแสที่นักแสดงหลักเป็นคนดำอย่าง Get Out และภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่เล่าเรื่องชาติพันธุ์ได้โดดเด่นอย่าง Black Panther ซึ่ง 'นีนา เจค็อบสัน' หนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ให้ความเห็นว่า ความสำเร็จของผลงานทั้งสองเรื่องเปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจในฮอลลีวูดไปโดยสิ้นเชิง

เจค็อบสัน ซึ่งเคยอำนวยการสร้างแฟรนไชส์ดังอย่าง Hunger Games มาแล้ว กล่าวว่าเธอมั่นใจในเนื้อหาของ Crazy Rich Asians เพราะเส้นเรื่องที่เป็นกระแสหลักและเข้าถึงง่าย โดยเป็นเรื่องของว่าที่ลูกสะใภ้และแม่สามี ซึ่งไม่ใช่ประเด็นเฉพาะที่เกิดขึ้นกับเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่ง

จากสถิติที่ The Hollywood Reporter รวบรวม ชี้ว่า ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุด 100 อันดับ ในปี 2017 มีตัวละครเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่เป็นคนเชื้อสายเอเชีย และใน 5 เปอร์เซ็นต์นั้น มีเพียง 4 คน ได้บทนำ ขณะที่ จากภาพยนตร์ 100 เรื่องที่ว่า มี 37 เรื่องที่ 'ไม่มี' ตัวละครเชื้อสายเอเชียเลย 

อีกตัวเลขหนึ่งระบุว่า ผู้กำกับ 109 คน ของภาพยนตร์ 100 เรื่องนั้น มีเพียง 4 คน ที่เป็นผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย และทั้งหมดเป็นผู้ชาย

หลังจากนี้ ต้องมาติดตามกันว่า Crazy Rich Asians จะประสบความสำเร็จ ทั้งในตลาดอเมริกาและทั่วโลกมากน้อยแค่ไหน และการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตู เปิดโอกาสให้ภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติเข้ามามีพื้นที่ในฮอลลีวูดมากขึ้นได้สำเร็จหรือไม่

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog