รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2563
‘คำผกา’ เลคเชอร์ยาว!! ฟัง!! พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยต้องออกมายืนยันหลักการสิทธิเสรีภาพ นักศึกษาชุมนุมได้ แสดงความคิดเห็นได้ เหมือนที่ ‘พิธา พรรคก้าวไกล’ บอก
เตือนพรรคเพื่อไทยแบบซอฟท์ๆ หากรู้ตัวว่าพลาด หลงพูดแต่มุมการเมือง ละเลยพูดถึงหลักการ ยังไม่สาย มีโอกาสแก้ตัว เรียกความเชื่อมั่นกลับมา พูดไปเลยว่า เราจะหยุดไม่ให้ใครมาทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือน 6 ตุลาฯ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อย่าฆ่าอนาคต “ โดยระบุว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ นักศึกษาประชาชนที่ออกมาชุมนุมได้ยื่น 3 ข้อเรียกร้องทางการเมืองให้แก่รัฐบาลโดยขอให้ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ยุบสภา 3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งข้อเสนอทั้ง 3 นี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และสังคมสามารถถกเถียงกันได้อย่างเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะ
แต่เราก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่านอกเหนือจากข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประเด็นแล้ว ในการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา รวมถึงการแสดงออกในโลกออนไลน์ และการชุมนุมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ นักศึกษาและประชาชนได้แสดงออกถึงประเด็นที่เป็น Inconvenient Truth หรือ ”ความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจ” ของสังคมไทย
นายพิธา ระบุต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องยอมรับเสียทีว่า นี่คือความรู้สึก แห่งยุคสมัย ซึ่งอันที่จริงแล้ว เป็นผลผลิตของปัญหา ที่พวกเราล้วนมีส่วนร่วมสร้างขึ้นมา และหมักหมมเอาไว้ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน
ต้องย้ำดังๆอีกครั้งว่า 10 ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ของนักศึกษาประชาชนที่ออกมาชุมนุมนั้น ไม่เท่ากับการก้าวล่วง-จาบจ้วง-ล่วงละเมิดสถาบันฯ เสมอไป และเราในฐานะพรรคก้าวไกล จะยืนยันว่า ข้อเสนอแบบนี้ ต้องสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนกันได้ ในสังคมประชาธิปไตย ที่มีเหตุผล มีวุฒิภาวะ และมีสติ จึงอยากขอให้ทุกคนทุกฝ่าย เปิดใจรับฟัง และแลกเปลี่ยนกันบนความสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ได้มีการพูดคุยกัน และรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ มิฉะนั้นแล้ว หากผู้มีอำนาจ หรือผู้คนในสังคมไม่ยอมรับฟังเสียงพวกนี้ คิดว่าเสียงพวกนี้เป็นภัยความมั่นคง เป็นภัยคุกคามของชาติและสถาบัน ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้รับฟังเสียงของพวกเขาจริงๆ เหมือนกับที่ผ่านมาปากของผู้นำก็บอกรับฟังๆ แต่ยังมีการไปคุกคามตามจับคนที่ออกมาพูดอยู่เลย ก็เท่ากับว่าเรากำลังฆ่าอนาคตให้ตายลงไปด้วยมือของเราเอง
นายพิธา ระบุว่า ในขณะนี้พื้นที่ปลอดภัยของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยก็กำลังหดหายลงไป ซึ่งเราขอเรียกร้องไปยังสังคมและสถานศึกษาว่า อย่าผลักไสพวกเขาออกไปจากพื้นที่ปลอดภัยเหล่านี้เลย
ส่วนเรื่องที่ผู้ใหญ่หลายคนออกมาทั้งแสดงความเป็นห่วงและข่มขู่ว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยการนองเลือดแบบเหตุการณ์ 6 ตุลา ขอย้ำว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องจบแบบเดิมเสมอไป หากผู้มีอำนาจสามารถอดทนอดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่หันกระบอกปืนยิงใส่ประชาชน ประวัติศาสตร์ก็จะไม่ซ้ำรอยเดิม
“สุดท้าย มีคำถามต่อพวกเรา ในฐานะพรรคการเมืองที่ออกมาเสนอประกันตัวให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีว่าคิดอย่างไร ผมขอย้ำว่าประชาธิปไตย ไม่ใช่การใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้งแค่ 4 วินาทีแล้วจบกันแค่นั้น แต่มันรวมไปถึงการมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม และการแสดงออกด้วย ดังนั้น ถ้าหากประชาชนถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม จากการแสดงออกทางการเมือง พวกเราพรรคก้าวไกลก็พร้อมปกป้องและหนุนหลังประชาชนอยู่เสมอ เพื่อยืนยันว่าเราทุกคนจะมีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดในการแสดงความเห็น”นายพิธา ระบุ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนักเรียนนักศึกษาชุมนุมทางการเมือง ต่อมามีการปราศรัยบางส่วนพร้อมข้อเสนอทางการเมือง ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจ และเกิดเหตุซ้ำรอยเหตุ 6 ตุลา
นายพริษฐ์ ระบุว่า เมื่ออนาคตของชาติได้ส่งเสียงอย่างบริสุทธิ์ใจ หน้าที่ของผู้มีอำนาจควรเป็นอย่างไร?
ขออย่า “ปิดกั้น” ไม่ให้เขาพูดสิ่งที่ใฝ่ฝัน
ขออย่า “ดูถูก” ว่าเขาถูกชี้นำ
สายไปแล้วที่จะ “แสดงท่าที” ว่าพร้อมฟัง
แต่ต้อง “สร้าง” และ “ปกป้อง” พื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน แม้ความคิดของเขาต่างจากความเชื่อของคุณ
#ปกป้องประชาชน