รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563
“อ.พิชญ์” เผยมี “คนดี” ที่ชื่นชม “บิ๊กตู่” ตลอดเว! คอยแซะคนวิจารณ์ ปมเงินกู้ล้านล้าน ที่ไม่ยอมใช้เวทีสภาฯ ให้ผู้แทนประชาชนถ่วงดุล “คำผกา” ก็เสริม “ไม่มีปัญหา” ที่จะกู้เงิน แต่ควรชี้แจงแผนการใช้เงิน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ ไม่ใช่บอกแบบกว้าง ๆ อย่างที่ทำ
“อ.พิชญ์” วอน “คนเคยเป็นสลิ่ม” ตั้งคำถามเรื่องนี้ด้วย หรือให้ข้อมูลฝ่ายค้านเอาไปซักรัฐบาล
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐสภาจะเป็นทางออกของประเทศ ที่ควรมีส่วนร่วมแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ มอบหมายให้ดำเนินการยกร่างหนังสือขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญของรัฐสภา ตามมาตรา 123 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ส.ส และ ส.ว.ต้องเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 247 คน
โดยขณะนี้ได้ยกร่างหนังสือเรียบร้อยแล้ว และเตรียมนำเอกสารให้สมาชิกสภาฯ ร่วมลงชื่อ และวันที่ 23 เม.ย. ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้นัดหารือกับ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหารือถึงการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญของรัฐสภาด้วย
”เมื่อเปิดประชุมฯ จะร่วมกันพิจารณาการเยียวยาประชาชน รวมถึงพิจารณากรณีที่รัฐบาลเสนอพระราชกำหนดเงินกู้ 3 ฉบับ ทั้งหมดต้องได้รับความเห็นชอบ รวมถึงคำชี้แนะของรัฐสภา เนื่องจากขณะนี้รายละเอียดการใช้จ่ายถือว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะมีคณะกรรมการชุดเดียวจากภาคประจำ และมีผู้ทรงคุณวุฒิเพียง 5 คนมาดูแล สุ่มเสี่ยงในเรื่องการตรวจสอบการใช้เม็ดเงินดังกล่าว”
ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติโอนจ่ายงบประมาณแผ่นดิน ที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ปรับลดงบฯ ปี 63 ก่อนการกู้เงินนั้น รัฐบาลก็ไม่ได้บอกว่าปรับลดเท่าใด บอกแต่เพียงว่าจะเสนอกฎหมายให้สภาฯ พิจารณา เพื่อโอนงบมาใช้ในการเยียวยาประชาชน ดังนั้น หากเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ค. ก็จะทำให้สามารถนำเงินในส่วนนี้มาช่วยเยียวยาประชาชนได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 การใช้ชีวิตวิถีใหม่ของประชาชนจะเป็นอย่างไรต่อไป ตรงนี้จะได้ถกเถียงและเสนอความเห็นให้กับรัฐบาลด้วย
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ประธานสภาฯ ไม่มีอำนาจเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาอนุมัติ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ตามข้อเสนอของฝ่ายค้าน เพื่อให้นัดประชุมได้ทันที ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือ ให้คณะรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล หรือ ส.ส.-ส.ว. ทั้งสองสภารวมกัน หรือ ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ทั้ง 2 สภาเข้าชื่อร้องต่อประธานรัฐสภาให้นำความกราบบังคมทูล
"ไม่ว่าประธานรัฐสภาอยากจะเปิดวิสามัญหรือไม่ก็ไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขอขอบคุณความห่วงใยและข้อเสนอของสมาชิกด้วย แต่ย้ำว่า 22 พ.ค.จะเป็นวันแรกของสมัยประชุมรัฐสภาสามัญครั้งที่หนึ่งปีที่สองตามเดิม"
นายชวน กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมสถานที่และความพร้อมการประชุมสภาฯ จะการเว้นระยะห่าง ด้วยการกำหนดให้ ส.ส.เว้นที่นั่งให้นั่งห่างกัน อาจกำหนดให้ส.ส.ที่ไม่ได้อภิปรายอยู่นอกห้องประชุม ขอความร่วมมืองดการดูที่สภาในเวลานี้ รวมถึงให้มีผู้ติดตาม ส.ส. มาที่สภาเท่าที่จำเป็น ทั้งหมดจะหารือกับผู้นำฝ่ายค้านฯ และตัวแทนของพรรคการเมืองต่อไป