ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์คลิปและข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/arthit.ourairat.9 โดยเสนอ ระบบการเลือกตั้งใหม่ ดังนี้
ข้อเสนอ: การเมืองระบอบสังคมธรรมาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การเมืองที่ผ่านมาและในปัจจุบัน ยังไม่ใช่เป็นการเมืองของประเทศชาติและประชาชน หรือเพื่อประชาชนแต่ เป็นการเมืองของพรรคการเมือง ของกลุ่มมาเฟียถ้าต้องการให้เป็นการเมืองของประชาชนและเพื่อประชาชน ต้องให้ประชาชนมีสิทธิ์ มีเสียง มีส่วนร่วมมากกว่านี้ต้องออกแบบระบบการเมืองใหม่เริ่มต้นจากการออกแบบระบบการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรใหม่ ในแนวทางดังนี้ เช่น
1. จัดการเลือกตั้งเป็น 2 ระดับ คือ
1.1 ระดับจังหวัด จังหวัดละ 3 คน
1.2 ระดับเขตเลือกตั้ง เขตละ 1 คน
รวม 2 ระดับ ทั้งประเทศ 500 คน
2. การเลือกตั้งทั้ง 2 ระดับ ให้กระทำเป็น 2 ขั้นตอน คือ
การเลือกขั้นปฐมภูมิ หรือขั้นต้น หรือ ไพรมารี่ Primary
และขั้นที่สอง คือการเลือกตั้งในระดับจังหวัด และการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบ่งตามจำนวนประชากร
3.การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งเพื่อให้ได้ผู้แทน 1 คน ให้ดำเนินการดังนี้
3.1 การเลือกตั้งขั้นปฐมภูมิ หรือไพรมารี่ ให้ดำเนินการในเขตตำบลแต่ละตำบล ดังนี้
3.1.1 ให้ผู้เสนอตัวสมัครเป็นผู้แทนตำบล จะสังกัดพรรคการเมือง หรือ อิสระ และจะมีภูมิลำเนาในตำบลนั้นหรือไม่ก็ได้ แต่สมัครได้ตำบลเดียว โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดใด
3.1.2 ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในตำบลเลือกผู้หนึ่งผู้ใดที่เสนอตัวลงสมัคร หรือเสนอผู้อื่นอีกก็ได้
3.1.3 ผู้ได้รับเลือกตั้งต้องเป็นผู้ได้คะแนนสูงสุดและเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในตำบลนั้น
3.1.4 หากไม่มีผู้ได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในตำบลนั้น ให้นำรายชื่อผู้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด 3 อันดับแรกมาให้ทำการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง จนได้ผู้ชนะการเลือกตั้ง
3.1.5 หากการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ในตำบล ยังไม่มีผู้ใดชนะการเลือกตั้ง ให้ถือว่า ตำบลนั้นไม่มีผู้แทนลงสมัครในเขตเลือกตั้งใหญ่
3.2 การเลือกตั้งขั้นที่สองในเขตเลือกตั้งใหญ่ ให้ผู้ชนะการเลือกตั้งจากตำบลต่างๆเป็นผู้สมัครลงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใหญ่
ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดที่เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในเขตเลือกตั้งใหญ่ได้รับการเลือกตั้ง
3.2.1 หากไม่มีผู้ได้รับคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน ให้จัดการเลือกตั้งอีก โดยนำผู้ได้คะแนนสูงสุด 5-4-3-2 อันดับแรกตามลำดับลงแข่งขันอีก
4. การเลือกตั้งในเขตจังหวัด จังหวัดละ 3 คน ให้ดำเนินการในทำนองเดียวกัน คือ
ให้ผู้สมัครในนามพรรคการเมืองก็ได้ สมัครอิสระก็ได้ หรือผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเสนอชื่อก็ได้ โดยผู้นั้นไม่จำเป็นต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น แต่ลงสมัครได้ที่เดียว และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดใด
5. ให้ กกต จัดการจัดทำแผ่นพับ โปสเตอร์ เอกสารทั้งหมดและเวทีการหาเสียงให้ผู้สมัครทุกคนให้เสมอทัดเทียมกัน โดยห้ามผู้สมัครหาเสียงเอง
6. เมื่อได้ผู้แทนราษฎร 500 คนแล้ว ให้ปรึกษาหารือกัน และทูลเกล้าเสนอชื่อผู้สมควรจัดตั้งรัฐบาล 3 คน ให้พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป
ประเทศไทยก็จะได้การเมืองของประชาชนในระบอบสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง