7 ประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาปกป้องป่าแอมะซอน ร่วมปลูกป่าคืนส่วนที่ถูกทำลาย
รัฐบาล 7 ประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ได้แก่โบลิเวีย บราซิล โคลัมเบีย เอกวาดอร์ กายอานา เปรูและซูรินาม ลงนามในข้อตกลงจัดตั้งการรับมือภัยพิบัติและการติดตามดาวเทียม เพื่อร่วมมือฟื้นฟูป่าแอมะซอน หลังจากที่ในปีนี้เกิดพื้นที่ไฟไหม้ป่าแอมะซอนกว่า 80,000 แห่งในหลายๆประเทศ
ทั้งนี้ 7 ประเทศยังมีความเห็นร่วมกันว่าจะต้องผลักดันและให้ความรู้และส่งเสริมบทบาทของกลุ่มชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่าแอมะซอนด้วยเช่นกัน
ขณะที่ทางการโบลิเวียระบุว่า ปัจจุบันป่าแอมะซอนในเขตประเทศโบลิเวียถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า 4.2 ล้านเอเคอร์ หรือมากกว่า 10,626,000 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าภายใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา และยังลุกลามไปใกล้กับชายแดนของประเทษบราซิลและปารากวัยในปัจจุบัน
'ซิเทีย อาซิน' รัฐมนตรีสิ่งเเวดล้อมของโบลิเวียออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลโบลิเวียประกาศให้ไฟไหม้ป่าแอมะซอนเป็น 'ภัยพิบัติแห่งชาติ' โดยเธอกล่าวว่า เพราะเรากำลังสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของประเทศ
รายงานปี 2019 ระบุว่า ไฟไฟม้ป่าแอมะซอนในครั้งนี้ได้ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในการประชุม G7 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาฝรั่งเศสประกาศมอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยดับไฟป่าจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯก็ประกาศส่งนักดับเพลิงกว่า 2,000 คนเข้าไปในพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้เพื่อช่วยดับไฟ
พื้นที่ป่าแอมะซอนส่วนกว่า 60 เปอร์เซ็นต์อยู่ในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นในพื้นที่ดังกล่าวไฟยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติ หลังจากที่ผ่านมาประธานาธิบดีบราซิลปฏิเสธการช่วยเหลือจากนานาชาติในการเข้าไปดับไฟป่า