ไม่พบผลการค้นหา
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมจากแม่น้ำยม หลังเกิดฝนตกหนักด้วยอิทธิพลร่องมรสุมกำลังแรง ด้วยการป้องกันน้ำหลากเข้าท่วมชุมชนเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ จ.สุโขทัย

สำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. ที่ผ่านมาด้วยอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนและประเทศไทยว่า ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นจนเกิดน้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำน่าน บริเวณ อ.เวียงสา จ.น่าน, แม่น้ำยม บริเวณ อ.เมือง จ.แพร่ และแม่น้ำยม บริเวณ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย 

ภาพรวมขณะนี้น้ำในแม่น้ำน่านได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนแม่น้ำยมปริมาณน้ำจำนวนมากได้ไหลผ่าน จ.แพร่ แล้วกำลังไหลเข้าสู่ จ.สุโขทัย เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อพื้นที่ อ.ศรีสัชนาลัย, อ.สวรรคโลก, อ.ศรีสำโรง, และ อ.เมือง ทั้งนี้เพื่อป้องกันน้ำหลากไม่ให้กระทบชุมชนเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจของ จ.สุโขทัย

กอนช. จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำยม ด้วยการตัดยอดน้ำก่อนเข้าเมืองสุโขทัย คือควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผันน้ำเข้าคลองผันน้ำสวรรคโลก-พิชัย (บริเวณลุ่มน้ำยม-น่าน) ผ่านประตูระบายน้ำหกบาทในอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผันน้ำผ่านประตูระบายน้ำน้ำโจน 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผันน้ำลงแม่น้ำน่านผ่านประตูระบายน้ำยม-น่านในอัตรา 110 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผันน้ำลงแม่น้ำยมสายเก่าผ่านประตูระบายน้ำยมเก่าในอัตรา 240 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผันน้ำเข้าคลองเล็กฝั่งซ้าย-ขวาในอัตราสูงสุดรวมไม่เกิน 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที     

นอกจากนี้เพื่อควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี Y4 อ.เมือง จ.สุโขทัย ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พิจารณาพร่องน้ำแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง เพื่อตัดยอดน้ำก่อนเข้าตัวเมืองลงท้ายประตูระบายน้ำยางซ้ายปริมาณไม่เกิน 468 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันไม่มีการระบายน้ำออกจากทุ่งทะเลหลวง ปิดการส่งน้ำจากโครงการท่อทองแดงที่ส่งน้ำไป อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ผันน้ำเข้าไปเก็บในลำน้ำสาขาในพื้นที่ทุ่งบางระกำคิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนและการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบช่วงวันที่ 24-27 ส.ค. นี้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะมีปริมาณฝนลดลงจากนั้นปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง