ไม่พบผลการค้นหา
วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน 11 ราย รวมกลุ่มคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งที่ให้ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

กลุ่มวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกกันบางส่วนราว 11 คน นำโดย 'เท็ด ครูซ' ส.ว.คนดังจากรัฐเท็กซัส แสดงจุดยืนคัดค้านการประกาศว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง รวมถึงเตรียมคัดค้านการรับรองผลที่ให้โจ ไบเดน เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ซึ่งท่าทีดังกล่าวเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความแตกแยกครั้งใหญ่ในพรรครีพับลิกัน รวมถึงอาจลุกลามถึงประชาชนผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่าย

6 ม.ค. สภาคองเกรสมีกำหนดรับรองผลการลงมติของคณะผู้เลือกตั้ง (electoral college) ที่เลือกให้ 'โจ ไบเดน' เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งการจัดประชุมดังกล่าวเป็นขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้เนื่องจากผลการเลือกตั้งชัดเจนแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวนี้ กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สนับสนุนปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรวมตัวชุมนุมครั้งใหญ่ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. เพื่อคัดค้านกระบวนการดังกล่าว ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว สนับสนุนการเคลื่อนไหวคัดค้านด้วย โดยอ้างเหตุผลว่า มีการโกงเลือกตั้ง แม้ไม่ปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจนก็ตาม

เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกจากรัฐเท็กซัส ประกาศตั้งตัวเป็นผู้นำกลุ่มนักการเมืองที่พยายามเรียกร้องให้ชะลอการรับรองผลการเลือกตั้งเต็มรูปแบบ ทั้งเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นเวลา 10 วันเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดในวันเลือกตั้ง 

"ไม่ว่าเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง หรือนักข่าวจะเชื่อเราหรือไม่ ความไม่ไว้วางใจอย่างลึกซึ้งต่อกระบวนการประชาธิปไตยของเราหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ เราทุกคนควรกังวลในเรื่องนี้ ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความชอบธรรมของรัฐบาลชุดใดๆก็ตามในภายภาคหน้า" แถลงการณ์ของกลุ่มระบุ 

เท็ด ครูซ กับพวกพยายามนำประเด็นโกงการเลือกตั้ง แต่ความชอบธรรมของการรับรองผลการเลือกตั้งมาขัดขวางกระบวนการรับรองผู้นำสหรัฐคนใหม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ศาลในหลายมลรัฐปฏิเสธไม่รับคำร้อง

ด้านส.ว. รีพับลิกันอย่างน้อย 3 รายได้วิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของ ส.ว. ครูซ อย่างรุนแรงว่าเป็นเพียงความพยายามในการประชาสัมพันธ์ให้ทรัมป์ รวมถึงพยายามล้มล้างเจตจำนงของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่าท่าทีของครูซกับพวกจะไม่สำเร็จ พร้อมวอนให้สมาชิกที่รวมกลุ่มดังกล่าวทบทวนท่าทีใหม่

เช่นเดียวกับ วิลเลียม บาร์ รัฐมนตรียุติธรรมภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ซึ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งช่วงก่อนวันคริสต์มาส ได้ยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมไม่พบหลักฐานการฉ้อโกงในระดับที่สามารถพลิกผลการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้ ในกระบวนการรับรองผลว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ สมาชิกของทั้งสองสภาจะลงมติรับรองผลการเลือกตั้งทั้งหมด 50 รัฐ โดยเรียงตามลำดับอักษร หากทั้งสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคัดค้านผลการเลือกตั้งของคณะผู้เลือกตั้งรัฐใดรัฐหนึ่ง ทั้งสองสภาจะระงับการประชุมการรับรองผลชั่วคราว เพื่อให้สมาชิกของทั้งสองสภาร่วมอภิปรายถึงสาเหตุการคัดค้านภายในระยะเวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะลงคะแนนรับรองผลต่อไป แต่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อทั้งสองสภามีมติคัดค้านผลการเลือกตั้งที่ตรงกันเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ที่มา : Bloomberg