ไม่พบผลการค้นหา
อ่านเรื่องผีๆ แนวถนัดของ 'วิฬาร์ ลิขิต' งานนี้รวบรวมมาให้แล้วว่า ในรอบปีที่ผ่านมา เมืองไทยตื่นตกใจกับผีประเภทไหนมากที่สุด และสิ่งเหล่านี้กำลังบอกอะไรกับสังคมของเรา ในคอลัมน์ 'ประวัติศาสตร์ปากว่าง' ส่งท้ายปี!

ตลอดปีนึงที่ผ่านมา เรื่องแซ่บๆ ไม่แพ้เรื่องใต้เตียงดารา หรือใต้โพเดียมท่านผู้นำ ก็เห็นจะเป็นเรื่องความเชื่อแบบ "บ้านๆ" ของชาวเราอย่างเรื่อง "ผี" นี่แหละ เพราะเป็นข่าวคราวไม่เว้นแต่ละวัน แถมเอาเข้าจริงก็เป็นพล็อตเรื่องเดิมๆ เพิ่มเติมแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

อีกไม่กี่วันจะสิ้นปีเลยจะขอจัดอันดับสุดยอดเรื่องผี ประจำปี 2560 กันสักหน่อย หลายๆ เรื่องถ้ามองกันดีๆ ก็สนุกได้สาระพอประมาณ แถมยังบอกภาพความเป็นไทยอะไรบางอย่างกับเราได้อีกด้วย


"กระสือ" ผีแห่งอาเซียน: เทคโนโลยีดีเท่าไหร่ ภาพก็ไม่เคยชัด

ผีตัวแรกที่อยากพูดถึง ขอยกให้กับ "กระสือ" อย่าขำไปนะจ๊ะ เพราะยิ่งเทคโนโลยีก้าวไกล ใช่ว่าผีพื้นบ้านตัวนี้จะหายหน้าไปตามความเจริญ ด้วยกล้องมือถือพิกเซลยิ่งสูงก็ยิ่งมีข่าวคราวการจับภาพ "ดวงไฟประหลาด" ได้ตลอดๆ ยกตัวอย่างตอนต้นปีราวเดือนมกราคม สื่อตีข่าวชาวบ้านหวาดผวา หลังถ่ายคลิปดวงไฟประหลาดได้ที่ตำบลภูดิน จังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบกับมีสัตว์เลี้ยงตายไม่ทราบสาเหตุ ด้วยเหตุนี้พอมืดปุ๊บชาวบ้านเลยปิดหน้าต่างปั๊บ ความกลัวครอบคลุมไปทั่วพื้นที่

กระสือเป็นผีเก่าแก่ มีชื่อมาตั้งแต่ในกฎหมายตราสามดวง พูดถึงคู่กับผีอีก 2 ชนิดที่ล้มหายตายจากโลกแห่งความเชื่อไปแล้ว นั่นก็คือ "ฉมบ" และ "จะกละ" การที่กระสือถูกเอ่ยนามถึงปัจจุบันจึงนับว่านางแน่เอาการ ความน่ากลัวก็คงมีอยู่บ้าง แต่ที่แน่ๆ นางมีอัตลักษณ์ยากหาใครเปรียบ เพราะมีแสงวูบวาบ และถือได้ว่าเป็นผีประจำชาติอาเซียน เช่น ใน “มหาราชวงษ์ พงษาวดารพม่า” พูดถึงพระมเหสีชาวเงี้ยวของพระเจ้าอนรธามังช่อ มีพระธาตุเสด็จมาอยู่ที่ต่างหูเกิดเป็นแสงสว่างไสว จนคนโจษกันว่าพระนางเป็นกระสือ ทำให้ถูกเนรเทศ

ขณะที่ในมาเลเซียมีกระสือที่เรียกว่า "เปนังกาลัน" ตัวนี้คล้ายกระสือบ้านเราทุกกระเบียด แถมยังชอบแวะเวียนไปตามบ้านหญิงเพิ่งคลอด บ้านเรามักบอกว่ากระสือมากินรกเด็ก ส่วนมาเลย์บอกว่านางจะแทรกลิ้นมาตามร่องไม้เพื่อเลียเลือดจากการคลอด เป็นสาเหตุการตายของแม่และเด็ก นี่อาจเป็นเบื้องลึกในจิตใจของผู้คนสมัยก่อนที่มองว่าการคลอดเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้วยระบบสาธารณสุขยังไม่ดีพอ ความสูญเสียไม่ทราบเหตุจึงเป็นเรื่องของอำนาจเหนือธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ในขณะนั้น

แต่สำหรับบ้านเราในปัจจุบัน กระสือมักมีข่าวการพบเห็นในภาคอีสาน มาพร้อมกับความคลุมเครือ และภาพเบลอๆ ชาวบ้านจะเชื่อว่ามีจริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ที่สำคัญคือทำไมสื่อถึงช่างขยันทำข่าว เอาภาพมัวๆ มาตีเรื่องได้เป็นวรรคเป็นเวร อย่างนี้สะท้อนอะไรได้บ้าง?


“พี่นวลคือใคร?” วลีเด็ดช่วงสิ้นปี

ผีที่ฉันยกให้เป็นอันดับ 2 ของปีนี้ คือผีแบบ New Entry มาแรงแซงโค้งช่วงปลายปี “พี่นวล” ที่ใครหลายคนได้ยินชื่อครั้งแรกต้องอุทานว่า “ใครวะ?”

พี่นวลมีความเป็น “ผีสูตร” นั่นคือ “ตายโหง” แถมมีความพิเศษเพราะโดนควายเผือกขวิด เฮี้ยนจัดเพราะตายขณะท้อง อย่างที่เรียกว่า “ตายทั้งกลม” (ทั้งกลมแปลว่าทั้งหมด ไม่ใช่ตายท้องกลมแบบที่ชอบเขียนผิดกัน) ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นผีตามขนบนิยมที่พบได้ตั้งแต่อดีต เช่น นางนากพระโขนง และผีต้นกล้วยในตำนานกัมพูชา ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ Ghost Banana Tree (2004) เล่าถึงหญิงสาวชาวบ้านที่บาดเจ็บจนป่วยและเสียชีวิตอย่างทรมาน แต่วิญญาณยังรอการกลับมาของสามี

ดังนั้น เรื่องพี่นวลจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ พล็อตเรื่องเดิม แค่เปลี่ยนชื่อกับโครงเรื่องนิดๆ หน่อยๆ แต่กลับสร้างปรากฎการณ์ได้เยอะแยะ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจิตใจเราอ่อนไหว หรือเศรษฐกิจไม่ดีจัดถึงขนาดต้องพึ่งผีตายโหง ก็สุดแท้จะคาดเดา แต่สิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นสำคัญปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจาก “สื่อ” นี่แหละ เพราะถ้าย้อนกลับไปค้นๆ ดูในเฟสบุ๊คของเจ้าของสำนักพี่นวล พบว่าพี่นวลเดบิวต์มาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว แต่เพิ่งมาดังตอนนี้ก็จากการประโคมข่าวของสื่อ ถึงราคาค่าตัวพี่นวลที่หลักหมื่น และขุดค้นประวัติ พาดหัว “ใครคือพี่นวล” เป็นคนสำคัญเสมือนนางเพิ่งได้โอลิมปิก

เรื่องนี้ “คุณบรรยงค์ สุวรรณผ่อง” ประธานกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถึงกับต้องส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมอาชีพเบาๆ ว่า ‘พี่นวล’ เป็นข่าว เท่ากับส่งเสริมความงมงาย เพราะการนำเรื่องราวของพี่นวลมาเสนอเป็นข่าว โดยไม่มีการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม มีแต่การลอกมาลง นอกจากส่งเสริมการขายให้เจ้าของเพจขายเครื่องรางแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความงมงายแก่สังคมอีกด้วย

ยังดีที่ยังพอมีคนทำสื่อไหวตัวทันอยู่บ้าง เรื่องผีพี่นวล จึงเป็นข่าวดีแบบผีๆ เรื่องหนึ่งในปี 60 ที่ฉันอยากบันทึกไว้


“ปอบ” ตัวแทนความเหลื่อมล้ำ อมตะนิรันดร์กาล

สุดยอดเรื่องผีประจำปี 2560 ต้องยกให้กับ “ปอบ” เหตุผลหลักๆ ก็คือ ผีรายนี้ปรากฎในหน้าสื่อตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเดือนเว้นเดือนต้องมีข่าวปอบโผล่ไปตามที่ต่างๆ เน้นๆ ที่จังหวัดแถบอีสาน เช่น ข่าวจับปอบนับแสนตัว ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ, ข่าวสัตว์เลี้ยงล้มหายตายจากจนชาวบ้านหวาดระแวงว่ามีปอบเข้าหมู่บ้าน ราวเดือนกรกฎาคม ที่ อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ, ข่าวชาวบ้านทำพิธีขับไล่คน 9 คนที่ถูกหาว่าเป็นปอบช่วงเดือนกันยายน ที่อำเภอชมชื่น จังหวัดมหาสารคาม และข่าวชาวบ้านตื่น “ผีปอบนาบง” เดือนพฤศจิกายน ที่อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์

นี่เป็นส่วนหนึ่งในความฮอตของ “ปอบ” โดยฉันเคยเขียนถึงไปแล้วครั้งหนึ่งใน Blog จะเห็นได้ว่าปอบมีความโบร่ำโบราณไม่เบา ผ่านกาลเวลาอย่างยาวนาน แต่มีสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนอย่างหนึ่ง ก็คือ คนชายขอบ คนนอกชุมชน คนไม่มีปากเสียง มักจะต้องข้อหาเป็นปอบอยู่เสมอ แถมหลายๆ กรณียังเป็นการกดทับทางเพศสภาพ เพราะปรากฎว่าบางครั้ง “ผู้หญิง” มักถูกโยนให้เป็นปอบ แค่มีผัวหลายคน แต่อยู่กันได้ไม่ยืดเพราะบังเอิญบุญน้อยด่วนจากไปก่อน ก็ถูกหาว่าเล่นของจนเข้าตัวเป็น “ปอบกินผัว” ฯลฯ

ทั้งหมดนี้เป็นอันดับเรื่องผีๆ ปี 2560 ที่จัดมาให้ดูแบบประมวล จริงๆ ก็ยังมีผีอื่นๆ ถูกกล่าวถึงอยู่บ้างในปีนี้ เช่น ผีกระหัง ผีโพง ผีกะ แต่ผีทั้งสามข้างต้นดูเหมือนจะสะท้อนอะไรๆ ในบ้านเราได้ดีที่สุด และหากเรื่องผีเป็นตัวแทนความคิดอ่านของสังคมแล้วหละก็ เชื่อสิว่าปีหน้าผีเหล่านี้ต้องมีพื้นที่ข่าวให้ได้เห็นอีกแน่นอน...

วิฬาร์ ลิขิต
เสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ตามแต่ปากอยากจะแกว่ง เรื่องที่คนทั่วไปสนใจ หรือใครไม่สนใจแต่ฉันสนใจฉันก็จะเขียน การตีความที่เกิดขึ้นไม่ใช่ที่สุด ถ้าจุดประเด็นให้ถกเถียงได้ก็โอเค แต่ถึงจุดไม่ติดก็ไม่ซี เพราะคิดว่าสิ่งที่ค้นๆ มาเสนอ น่าจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างไม่มากก็น้อยในวาระต่างๆ จะพยายามไม่ออกชื่อด่าใครตรงๆ เพราะยังต้องผ่อนคอนโด แต่จะพยายามเสนอ Hint พร้อมไปกับสาระประวัติศาสตร์ที่คิดว่าน่าสนใจและเทียบเคียงกันได้
2Article
0Video
66Blog