ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ทบ. นำ นายพล ทบ. ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น ทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน

วันที่ 1 ต.ค. 2564 กองทัพบกจัดพิธีแสดงความยินดีกับนายทหารชั้นนายพล สังกัด ทบ. ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารชั้นนายพล สังกัดกองทัพบก ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น ประจำปี 2564 (วาระตุลาคม 2564) 

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารบก นำคณะนายทหารชั้นนายพล ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น ถวายราชสักการะ และกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 กองบัญชาการกองทัพบก 

สมประสงค์ กองทัพเรือ  -EA54-4985-B95F-D524BEBA9AC8.jpegกองทัพเรือ สมประสงค์ E-BC2A-AC9D5AC4D6D4.jpeg

ผบ.ทร. ประดับยศ-ยินดี 120 นายพลเรือ

ด้าน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับยศแสดงความยินดีให้แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเรือ และพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีประดับยศและแสดงความยินดีกับนายทหารชั้นยศนายพลเรือที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดยมีนายทหารชั้นยศนายพลเรือที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น จำนวน 120 นาย แยกเป็น พลเรือเอก 14 นาย พลเรือโท 36 นาย พลเรือตรี 67 นาย พลเรือตรีหญิง 3 นาย

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้น นายพลเรือที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยมีนายทหารชั้นยศนายพลเรือที่ได้รับพระราชทานยศในตำแหน่ง โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้โอวาทแก่ นายทหารชั้นนายพลเรือในตำแหน่งสำคัญที่เข้าร่วมพิธี ความว่า “ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. พุทธศักราช 2564 นั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมและเป็นเกียรติแก่ผมและ ครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้”

“ผมจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการ สนองพระเดชพระคุณอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น ในโอกาสเดียวกันนี้ ผมขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อเพื่อนนายทหารทุกท่านที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศสูงขึ้น รวมทั้งจะได้ปฏิบัติงานร่วมกับทุกท่านด้วยความรัก ความสามัคคี เหมือนพี่เหมือนน้อง เพื่อกองทัพเรือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปซึ่งผลของการปฏิบัติงานจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกท่าน จึงขอให้ทุกท่านร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของกองทัพเรือและนโยบายที่ได้กำหนดไว้เพื่อพัฒนากองทัพเรือให้มีความมั่นคงเจริญก้าวหน้าสืบไป”

กองทัพไทย กองทัพ เฉลิมพล -9F85-4B1B-BF4F-7E1D0B47AF29.jpeg


ผบ.สูงสุด มอบนโยบาย บก.ทัพไทย ปกป้องสถาบันฯ

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ให้กับส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ให้ทุกส่วนราชการพิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ยึดถือการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังคงคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมทั้งพัฒนาและขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเป็น DIGITAL HQ และ SMART HQ ภายใต้แนวคิด RTARF DRIVE

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานที่สำคัญในด้านต่าง ๆ อาทิ การพิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม การพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคงและช่วยเหลือประชาชน การเพิ่มบทบาทด้านการพัฒนาเพื่อความมั่นคงให้กับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา การฝึก ปกครอง และดูแลทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ให้เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ พร้อมพัฒนาประเทศเมื่อปลดจากกองประจำการ พร้อมทั้งได้เน้นย้ำการปลูกฝังอุดมการณ์ความเป็นทหารอาชีพ มีระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม โดยกำลังพลทุกนายจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด การพัฒนากำลังพล โดยการเสริมสร้างและพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานตามหน้าที่ รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต พร้อมทั้งดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า พัฒนาเสริมสร้างกองทัพไทยให้เข้มแข็ง ทันสมัย ให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วม ๓ เหล่าทัพอย่างเป็นปึกแผ่นในทุกมิติ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืนสืบไป