ไม่พบผลการค้นหา
ญี่ปุ่นเตือนว่า อนุสาวรีย์หญิงบำเรอสงครามแห่งใหม่ในเกาหลีใต้จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน ด้านเจ้าของสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์เผย ต้องยกเลิกพิธีเปิด หลังถูกทักท้วง

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า อนุสาวรีย์แห่งใหม่ที่สวนพฤกษศาสตร์ ในเมืองพยองชางของเกาหลีใต้ อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัน โดยอนุสาวรีย์นี้ชื่อว่า “การไถ่โทษไม่มีสิ้นสุด” ซึ่งเป็นรูปปั้นชายคุกเข่าบนพื้นคำนับเด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “หญิงบำเรอสงคราม” ผู้หญิงที่ถูกบังคับให้ทำงานในโรงโสเภณีของทหารญี่ปุ่นช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ของเอกชน

อนุสาวรีย์นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในญี่ปุ่น เนื่องจากมีคนมองว่ารูปปั้นผู้ชายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นหน้าเหมือน 'ชินโซ อาเบะ' นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แต่คิมชาง-รยอล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้กล่าวว่า อนุสาวรีย์นี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากอาเบะเลย และไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมืองแต่อย่างใด อนุสาวรีย์อาจแปลความได้ถึงผู้ชายคนใดก็ตามที่ต้องขอโทษต่อเด็กผู้หญิง อาจเป็นพ่อ หรือผู้ชายคนไหนที่จะจินตนาการ

AFP หญิงบำเรอสงคราม พยองชาง Comfort Women Pyongchang

ทั้งนี้ สื่อเกาหลีใต้หลายแห่งรายงานว่า อนุสาวรีย์ดังกล่าวหมายถึงอาเบะ พร้อมรายงานว่าศิลปินที่ทำอนุสาวรีย์นี้ระบุว่า รูปปั้นนี้แสดงให้เห็นว่า "การให้อภัยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ญี่ปุ่นขอไถ่โทษต่อไปจนกว่าเกาหลีใต้จะยอมรับ” 

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้เกาหลีใต้เคารพข้อตกลงระหว่างกันในปี 2558 ในการแก้ปัญหาหญิงบำเรอสงคราม “เป็นครั้งสุดท้ายและไม่อาจย้อนกลับได้” ด้วยการตั้งกองทุนให้องค์กรในเกาหลีใต้แจกจ่ายความช่วยเหลือทางการเงินให้กับผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบ แต่รัฐบาลของมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยุบ “มูลนิธิปรองดองและเยียวยา” ไปเมื่อปี 2562 หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ข้อตกลงปี 2558 ทำในรัฐบาลชุดก่อนโดยที่ไม่สะท้อนความคิดเห็นของผู้รอดชีวิต

ชาวเกาหลีใต้แสดงความเห็นบนโซเชียลมีเดียแตกต่างกันออกไป บางคนมองว่า นี่เป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงประเด็นได้อย่างชัดเจน แต่บางคนมองว่าเป็นการกระทำที่หยาบคายต่ออาเบะ

ก่อนหน้านี้ สวนพฤกษศาสตร์วางแผนว่าจะจัดพิธีเปิดอนุสาวรีย์นี้ในวันที่ 11 ส.ค. แต่ก็ตัดสินใจยกเลิกพิธี หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักบนโซเชียลมีเดีย โดยคิมกล่าวว่า อนุสาวรีย์นี้เป็นเพียงหนึ่งในอนุสาวรีย์หญิงบำเรอสงครามหลายแห่งในเกาหลีใต้ จึงทำให้เขาไม่คาดคิดว่าอนุสาวรีย์นี้จะกลายมาเป็นจุดสนใจของสาธารณะเช่น

ที่มา : Japan Times, Nikkei