ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทช็อกโกแลตชื่อดังหลายแห่งประสบความล้มเหลวในการป้องกันการใช้แรงงานเด็กที่มีมากถึง 1.6 ล้านคน และการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่โกโก้

รายงานของกลุ่มกรีนอเมริการะบุว่า บริษัทช็อกโกแลตชื่อดังของโลกอย่างโกดิวา ลินท์ และเฮอร์ชีย์ ต่างพากันประสบความล้มเหลวในเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็กในอุตสาหกรรมการผลิตช็อกโกเเลต ซึ่งมีการประเมินว่าแรงงานเด็กที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มีมากถึง 1.6 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจนในทวีปแอฟริกาอย่างกานาและไอวอรีโคสต์

ในรายงานระบุว่า บริษัทโกดิวาได้รับเกรด F ในเรื่องลดการใช้แรงงานเด็กและการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อผลิตโกโก้ ขณะที่เฟอร์เรโร่และมอนเดเลซ ได้รับเกรด D ลินท์และเฮอร์ชีย์ได้รับเกรด C และเนสเล่ได้รับเกรด C+ 

ขณะที่ผู้ผลิตขนาหวานอย่าง Endangered Species, Equal Exchange และ Tony’s Chocolonely นั้นได้รับเกรด A 

ทางด้านโกดิวาออกมาตอบโต้รายงานดังกล่าวว่า "ที่ผ่านมาโกดิวาได้ออกกฎทำข้อสัญญากับทางผู้ผลิตโกโก้ที่เป็นบุคคลที่สามอย่างชัดเจนตามมาตรฐานของโกดิวา ซึ่งระบุว่า ห้ามให้มีการบังคับใช้แรงงานและใช้แรงงานเด็ก"

ที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลตและบริษัทโกโก้หลายแห่งได้รวมตัวกันเพื่อยกระดับมาตรฐานของโกโก้ที่ผ่านการรับรองถึงเรื่องของจริยธรรมในการผลิต แต่ทางด้านของกรีนอเมริกากล่าวว่า การรับรองโกโก้ในเรื่องของจริยธรรมนั้นไม่เพียงพอ บริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลตและโกโก้เหล่านี้ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนและการยกระดับรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ด้วย

ตามการอ้างอิงของหน่วยงานโกโก้นานาชาติระบุว่า เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในแอฟริกานั้นต่างมีรายได้ที่ต่ำกว่าเส้นความยากจนของธนาคารโลก โดยมีรายได้ต่ำกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน รวมไปถึงมีการใช้แรงงานเด็กในการอุตสาหกรรมการปลูกโกโก้ด้วยเช่นกัน

ทางด้านประเทศกานาและไอวอรีโคสต์กล่าวว่า 'ที่่ผ่านมาบริษัทโกโก้ให้ความสำคัญกับแผนงานความยั่งยืนของตนเองมากกว่าแผนการจ่ายเงินที่เป็นค่าครองชีพตามที่ประเทศต่างๆ ได้เสนอเพื่อบรรเทาความยากจนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้'

ที่มา Japantimes / VOA