ไม่พบผลการค้นหา
ส.ก.เพื่อไทย ลุยตรวจสอบอาคารคอนโดฯ ‘สเตท ทาวเวอร์’ หลังลูกบ้านร้องเรียนก่อสร้างกระทบความปลอดภัย หลังลูกบ้านคอนโดฯ ร้องถูกเอาเปรียบไม่ได้ใช้สถานที่ส่วนกลาง กระทบการรักษาความปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้รถยนต์

วันที่ 8 ธ.ค. 2565 ที่อาคารสเตท ทาวเวอร์ เขตบางรัก คณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อยกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดัดแปลงลานจอดเฮลิคอปเตอร์เป็นร้านอาหาร ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดแย้งต่อข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และกระทบการรักษาความปลอดภัยของอาคารสูง นำโดยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.หนองแขม ในฐานะประธานคณะกรรมการปกครองฯ วิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.บางรัก ปวิน แพทยานนท์ ส.ก.บางคอแหลม และ นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.บางกะปิ ในฐานะกรรมการคณะกรรมการฯ 

นวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้มาจับผิด แต่เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเป็นธรรมต่อผู้อาศัย และผู้ประกอบธุรกิจ เป็นการตรวจสอบอาคารนี้เป็นครั้งแรก และยังมีอีก 50 เขตที่ทางคณะกรรมการปกครองฯ ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย ซึ่งถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าผิดจริงก็ต้องมีการแก้ไขลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้สามารถเป็นทางหนีไฟให้แก่ประชาชนได้ และถ้าหากมาตรวจสอบอีกครั้งแล้วยังไม่การแก้ไขก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งขอฝากไปถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม. ต้องสนใจเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ 

เดอะสเตท -55CA-4BE3-87BC-18221884732B.jpegสก -B5B7-4471-A36D-D47567E8C37A.jpegสก เดอะสเตท -BEC6-43C8-9898-5779E4250CFF.jpegเดอะสเตท เพื่อไทย -A555-4CB3-9DB7-9B690D627E2B.jpegเดอะสเตท -F8C95623EC49.jpeg

ด้าน วิพุธ ซึ่งเป็นผู้นำเรื่องร้องเรียนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการฯ กล่าวว่า คณะกรรมการปกครองฯ ต้องการเข้ามาตรวจสอบเรื่องของมาตรการด้านความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย ใบอนุญาตในการก่อสร้าง ดัดแปลงการใช้พื้นที่ส่วนบันไดหนีไฟว่า ถูกต้องตามหลักการหรือไม่ รวมถึงตัวอาคารด้านบนที่ต้องดูตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2558 ว่ามีส่วนขัดแย้งจนกระทบกับพี่น้องประชาชนหรือไม่ ซึ่งถ้ามีส่วนที่ขัดแย้งต้องเร่งแก้ไข เพราะอาคารลักษณะดังกล่าวไม่ได้มีแค่ที่เดียวใน กทม. ซึ่งในสมัยก่อน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร อาจจะไม่ได้กำหนดเรื่องทางหนีไฟ หรือสปริงเกอร์ดับเพลิง แต่พอมาถึงวันนี้เราต้องทำการแก้ไข 

ขณะที่ หนึ่งในลูกบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ระบบความปลอดภัยของอาคารนั้นไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมาได้มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์บริเวณลานจอดรถชั้นล่างของอาคาร แต่กลับไม่มีสัญญาณเตือนภัยให้แก่ลูกบ้าน อีกทั้งพื้นที่ส่วนกลางของอาคารนั้น บางส่วนได้กลายเป็นพื้นที่ของโรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ เช่น สระว่ายน้ำ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร ทำให้ลูกบ้านไม่มีสิทธิ์ใช้งาน ทั้งที่ตามสัญญานั้นลูกบ้านมีสิทธิ์ใช้พื้นที่ส่วนกลางนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพื้นที่จัดส่งพัสดุที่ไม่มีความเรียบร้อยเสี่ยงต่อการสูญหายของพัสดุ 

ลูกบ้านกลุ่มดังกล่าว ยังระบุอีกว่า ค่าไฟฟ้าของทั้งอาคารนั้นจากแต่เดิมไม่ถึงล้านบาท แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานั้น ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงกว่าหลายล้านบาท และโรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ ยังได้นำค่าไฟฟ้านั้นมาเฉลี่ยกับค่าไฟฟ้าในส่วนของคอนโดที่พักอาศัย ทั้งนี้ กลุ่มลูกบ้านยังเปิดเผยอีกว่า พวกตนเคยคิดอยากย้ายออกไป และพยายามร้องเรียนเจ้าหน้าที่นิติคอนโดมาหลายครั้งแล้ว เช่น ขอดูบัญชีเงินส่วนกลางที่มีการตรวจสอบ แต่กลับไม่เคยได้รับ

อาคารเดอะสเตท -A193-4820-A7F3-E89592E2EAD8.jpegเดอะสเตท -39BE-45FA-9C7F-9C4F71D57902.jpegคอนโด เดอะสเตท -36C6-462B-8A7F-F740025EFF3D.jpegสก เพื่อไทย วิพุธ -D991-4FD4-894D-EB4B34155C5C.jpegวิพุธ -B3DE-43E7-8F1E-D28E94C52476.jpegนวรัตน์ สก -6E32-4D2F-9F6B-8A121EF0D971.jpegเดอะสเตท -A2BC-AF21C160E8C6.jpeg

เวลาประมาณ 12.30 น. ทางเจ้าหน้าที่นิติอาคารได้ยินยอมให้ผู้สื่อข่าว และช่างภาพสามารถเข้าไปเก็บภาพในพื้นที่ที่ถูกร้องเรียนจากประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ภายในอาคารได้ โดยก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่นิติอาคารไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปข้างใน โดยอ้างว่า ทางสภากทม. ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมาว่าจะมีสื่อมวลชนเข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ 

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของคณะกรรมการปกครองฯ ที่บริเวณลานจอดรถชั้น B5 ของอาคารที่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ของพนักงานโรงแรมเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ยังคงมีคราบเขม่าควัน และร่องรอยจากเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งพื้นที่ตรงส่วนนั้นไม่ได้มีกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบได้

ขณะที่เจ้าหน้าที่นิติอาคาร เปิดเผยว่า ได้รับจดหมายคำขู่ระบุข้อความว่า “อยากดังเดี๋ยวจัดให้” ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวขึ้น 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบอาคารชั้น 64 ซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องอาหาร โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ พบว่า มีการก่อสร้างซ้อนทับกับลานจอดเฮลิคอปเตอร์จริง อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ขนาด 10 x 10 ตารางเมตรเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน รวมไปถึงทางหนีไฟระหว่างชั้นที่ 63 และ 64 ยังถูกปรับเป็นห้องสำหรับเตรียมอาหาร โดยในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของ กทม. แจ้งว่า จะต้องเรียกผู้ดูแลอาคารเข้าไปเจรจาเพื่อสอบถามแนวทางการก่อสร้าง และปรับปรุงต่อไป