ไม่พบผลการค้นหา
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอักรราชทูตไทย และแอดมินเพจทูตนอกแถว The Alternative Ambassador โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว 'ในห้วงคำนึงแห่งเดือน Pride และต้าร์ วันเฉลิมฯ'

ข้อความมีดังนี้

"วันก่อนมีน้องๆ ชวนไปเดินชมการชุมนุม Pride Parade ที่สีลมกับเขาด้วย เท่าที่ดูบรรยายกาศก็คึกคักดี สังเกตเห็นมีรุ่นเด็กและเยาวชนจำนวนมาก ซึ่งแสดงถึงความตื่นตัวและการตระหนักถึงสิทธิและความเท่าเทียมกันของคนรุ่นนี้ แล้วยังมีท่านชัชชาติฯ ผู้ว่า กทม. ที่น่ารักมาร่วมงานให้คนให้กรี๊ดกร๊าดกันด้วย ทำให้คิดว่าจริงๆ แล้วสังคมของเรามีการรับรู้ที่ก้าวหน้าและพัฒนาไปจากเดิมมากพอควร

แต่ก็พอดีเฟสบุ๊คขึ้นความทรงจำในเพจส่วนตัวเมื่อสองปีก่อนเรื่องคุณต้าร์ วันเฉลิมฯ มาให้ ซึ่งผมเห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องร้ายแรงที่น่าสะเทือนใจมาก จึงอยากนำมาพูดถึง เพราะเรื่องนี้ที่จริงมันเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง ที่หน้าที่หลักสำคัญอันดับต้นๆ ของสถานเอกอัครราชทูตและกระทรวงการต่างประเทศคือการดูแลคุ้มครองคนชาติของตนในต่างแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศทุกคนได้แถลงให้คำมั่นไว้ต่อรัฐสภา

การดูแลคนไทยในต่างแดนนั้นไม่สามารถเลือกประติบัติที่รักมักที่ชังได้ จะต้องดูแลเหมือนกันหมด ไม่ว่าคนนั้นๆ จะต้องโทษในต่างแดน หรือต่อให้มีคดีติดตัว มีความผิดจากไทยก็ยังจำต้องให้การคุ้มครองให้เขาได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมตามกฎหมายในต่างแดน

หากปรากฎว่ามีคนชาติของตนถูกคุกคามทำร้ายโดยผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งอุกฉกรรจ์ในต่างแดน ตามแนวปฏิบัติทั่วไป สถานเอกอัครราชทูตมีหน้าที่ต้องให้การช่วยเหลือ ติดตามขอรับทราบข้อเท็จจริงจากประเทศเจ้าบ้าน และขอให้เร่งคลี่คลายคดีรวมทั้งนำตัวคนทำผิดมาลงโทษ โดยหากไม่ได้รับทราบความคืบหน้าเป็นที่พอใจ กระทรวงต่างประเทศก็จะต้องเรียกทูตของประเทศนั้นมาเข้าพบเพื่อเร่งรัด และประท้วงหากจำเป็น เพราะชีวิตของคนชาติของตนถือเป็นผลประโยชน์สูงสุดประการหนึ่งของประเทศชาติ ดังที่ได้แถลงไว้ต่อสภา

อันนี้คือว่าตามหลักการแนวปฏิบัติที่ถูกที่ควรทั่วไปนะครับ

คุณต้าร์ วันเฉลิมฯ ถูกอุ้มหายอย่างอุกฉกรรจ์กลางกรุงพนมเปญ ระหว่างที่เขาหลบหนีอำนาจเผด็จการไปลี้ภัยอยู่ที่นั่น และแม้จะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้ไปติดต่อทางการกัมพูชาอยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้มีการเร่งรัดอย่างจริงจังและจนปัจจุบันไม่ปรากฎมีความคืบหน้าใดๆ ในคดีนี้ เพราะไม่เห็นมีการมาแถลงให้ข่าวใดๆ จากกระทรวงต่างประเทศ ทั้งที่คดีนี้ถือว่าร้ายแรงอย่างยิ่ง และยังมีผู้คนให้ความสนใจติดตามทั้งในไทยและต่างประเทศด้วย

และแม้ว่าจะพอเข้าใจได้ว่าทำไมกระทรวงต่างประเทศถึงไม่ยอมเร่งรัดติดตามคดี และคงอยากให้คนไทยลืมๆ กันไป แต่ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็คืออีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงถึงความล้มเหลวในการทำหน้าที่หลักของกระทรวงการต่างประเทศในยุคมืดนี้

ต้าร์อาจเป็นบุคคลที่ต้องคดีตาม 'กฎหมาย' ไทย และเราไม่สามารถตัดสินคนเพียงแค่ภายนอกได้ แต่ใครช่วยดูรูปนี้และมองที่ดวงตาของเขา แล้วบอกผมทีว่านี่หรือคือโฉมหน้าของคนร้ายที่จิตใจชั่วโฉดสารเลวทำความผิดร้ายแรงมากมาย จนสมควรต้องได้รับชะตากรรมถูกอุ้มหาย บังคับให้สาบสูญ อันเป็นอาชญากรรมที่ชั่วร้ายที่สุดประการหนึ่งเยี่ยงนี้?

ในแง่หนึ่งการรับรู้เรื่องสิทธิต่างๆ ของคนไทยไปไกลมากแล้ว แต่เรื่องที่สุดโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นกรณีของคุณวันเฉลิมฯก็ยังมีเกิดขึ้นในสังคมของเราอีกเช่นกัน

ท้ายนี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีในเดือน Pride ขอให้ผอง LGBTQ+ และทุกคนได้สิทธิอย่างเสมอภาคอย่างแท้จริง และขอส่งใจให้ผู้ถูกบังคับให้สูญหายอย่างโหดเหี้ยมทุกคน 

และแม้อาจจะอีกนาน แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งสังคมเราจะต้องดีขึ้นและเท่าเทียมกันครับ"