ไม่พบผลการค้นหา
รัฐสภาโปแลนด์มอบอำนาจให้ โดนัลด์ ทัสก์ อดีตนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ จัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ โดยรัฐบาลชุดใหม่ของโปแลนด์จะเข้าทำพิธีสาบานตนที่ทำเนียบประธานาธิบดีต่อ อันด์แชย์ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ในช่วงวันพุธนี้ (13 ธ.ค.)

การกลับมาสู่อำนาจของทัสก์ นับเป็นจุดสิ้นสุดของการปกครองนาน 8 ปีของพรรคกฎหมายและความยุติธรรม (PiS) ซึ่งมีอุดมการณ์ชาตินิยมฝ่ายขวา และมีแนวนโยบายปะทะกับสหภาพยุโรปบ่อยครั้ง อย่างไรก็ดี ทัสก์อาจเผชิญกับความยากลำบากในการปฏิบัติตามคำสัญญาของเขา ที่จะยกเลิกผลกระทบจากกฎหมายที่เคยออกโดยรัฐบาลของพรรค PiS

พรรคแนวร่วมหัวกลางของทัสก์ได้รับที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งโปแลนด์เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถเข้ารับตำแหน่งได้จนถึงขณะนี้ ทั้งนี้ พรรค PiS ซึ่งนำโดย มาเทอุส โมราเวียสกี นายกรัฐมนตรีโปแลนด์คนปัจจุบัน กลายเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดเพียงพรรคเดียวหลังการเลือกตั้ง แต่พรรคอื่นๆ ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ และพรรค PiS เองกลับไม่สามารถมี สส.ฝ่ายรัฐบาลเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ ก่อนที่โมราเวียสกีจะแพ้มติไม่ไว้วางใจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ธ.ค.) ซึ่งเปิดทางให้ทัสก์กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ ทัสก์เคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ระหว่างปี 2550 ถึง 2557 และขึ้นดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภายุโรปในเวลาต่อมา โดยในการเลือกตั้งเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แนวร่วมสนับสนุนสหภาพยุโรปของทัสก์ได้รับที่นั่งเสียงข้างมากในรัฐสภาโปแลนด์ หลังจากมีประชาชนโปแลนด์ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นประวัติการณ์มากกว่า 70% 

ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ของโปแลนด์ประกอบไปด้วยพรรคการเมือง 3 ฝ่าย ได้แก่ พรรคแนวร่วมพลเมือง (KO) ของทัสก์ พรรคทางที่สาม และพรรคซ้าย โดย สส.แนวร่วมรัฐบาลชุดใหม่ของทัสก์ได้ตะโกนเชียร์ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐสภา และร้องเพลงชาติหลังการลงคะแนนเสียง เพื่อแต่งตั้งให้ทัสก์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

มีการคาดการณ์ว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของทัสก์จะมี ราโดสลาฟ ซิกอร์สกี้ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ ภายใต้การนำของทัสก์ครั้งก่อน เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีด้วย ในคณะที่ประชาชนโปแลนด์ยังคงมีความคาดหวังต่อแนวร่วมใหม่ในระดับสูง ท่ามกลางคำสัญญาของรัฐบาลชุดใหม่ที่ให้คำมั่นว่าจะเข้ามาฟื้นฟูระบบนิติธรรมของประเทศใหม่

นอกจากนี้ ทัสก์ยังให้คำมั่นที่จะยกเลิกการปิดกั้นเงินทุนของสหภาพยุโรปจำนวน 3.6 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท) ที่จัดสรรให้กับโปแลนด์ ซึ่งสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของชุดเงินทุนดังกล่าว เนื่องจากข้อกังวลด้านหลักนิติธรรม

ทัสก์ยืนยันอีกว่า รัฐบาลชุดใหม่ของเขาจะจัดการกับคำตัดสินของศาลโปแลนด์ในปี 2563 ที่สั่งห้ามการยุติการตั้งครรภ์ โดยทุกคดีความที่เกี่ยวกับการทำแท้งก่อนหน้านี้จะถูกยกเลิกลง นอกจากนี้ ทัสก์ยังยืนยันว่าเขาจะให้ความสำคัญกับการคุ้มครองกลุ่ม LGBTQ ในประเทศให้มีความเข้มแข็งขึ้น

ก่อนหน้านี้ ดูดาในฐานะประธานาธิบดีโปแลนด์ได้เสนอชื่อโมราเวียสกีให้ขึ้นจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าโอกาสของความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลโดยโมราเวียสกีจะห่างไกลจากความเป็นจริง ความพยายามดังกล่าวของดูดาบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีโปแลนด์ ซึ่งจะอยู่ในอำนาจถึงปี 2568 แสดงเจตนาอย่างชัดเจนที่จะพยายามขัดขวางทัสก์ในการขึ้นสู่อำนาจ

อย่างไรก็ดี เพื่อให้มีการผ่านกฎหมายได้ ร่างกฎหมายที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภาโปแลนด์จะต้องได้รับการลงนามโดยดูดา ซึ่งมีอำนาจยับยั้งร่างกฎหมายเหล่านั้นได้ ในขณะที่พรรคแนวร่วมของทัสก์มี สส.ไม่เพียงพอที่จะลงมติทับมติยับยั้งประธานาธิบดีได้


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-67681940?fbclid=IwAR1tNsRTtnkxPomG9ymgNnkw98EWe7APoB68zlse1Cqlb5iZu0wjO85ocig