ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย คาดหวังที่ประชุมรัฐสภาหาทางออกบ้านเมือง 5 ข้อ แนะตั้งกมธ.ปฏิรูปสถาบัน และส.ว.เสียสละอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า เรื่องพิจารณาเร่งด่วนคือปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินและทางออกจากความขัดแย้งของชาติบ้านเมือง ที่คณะรัฐมนตรีสมควรตั้งใจรับฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาและหาทางออกร่วมกันในสถานการณ์วิกฤตทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจในขณะนี้ จึงไม่ควรใช้ที่ประชุมรัฐสภามาเสียเวลาเล่นตลกหรือแสดงลิเกประท้วงกันไปกันมา โดยตนมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่จะเป็นทางออกจากวิกฤตศรัทธาในระบบรัฐสภาคือ

1.รัฐสภาต้องเป็นทางออกของชาติบ้านเมืองและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้ได้ ไม่ซื้อเวลาให้ปัญหามันบานปลายมากขึ้น โดยขอเสนอให้ตั้งกรรมาธิการปฏิรูปสถาบัน เพื่อศึกษาและเสนอแนวทางปฏิรูปต่อรัฐสภาเพื่อแก้ไขกฎหมายต่อไป เป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติและเชิญผู้แทนนิสิตนักศึกษามาให้ความเห็น เท่าที่ทราบข้อเสนอการปฏิรูปข้อ 4 และข้อ 9 เป็นไปได้มากที่สุดในเวลานี้และแก้ไขได้เลย เนื่องจากได้รับการตอบรับเห็นด้วยจากหลายฝ่าย

2.รัฐสภามีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในรายมาตราที่เป็นปัญหาความขัดแย้งและที่มาของอำนาจที่ไม่ชอบธรรมได้เลยไม่ต้องรอเวลา ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อสร้างกติการ่วมกันก็เป็นช่วงเวลาคู่ขนานต่อไป

3.ขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบปัญหาความขัดแย้งด้วยการลาออก เพราะมีอำนาจมาหลายปีกลับแก้ไขปัญหาไม่ได้ แม้จะต้องให้รัฐมนตรีในโควต้าของพรรคต้องลาออกก็ต้องทำและรวมตัวกันทุกพรรคการเมืองเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ถ้ารวมกันได้เราอาจเห็นพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวหากยังคงใช้บริการพล.อ.ประยุทธ์ อยู่โดยไม่คิดปฏิรูปพรรค 

4.ขอเรียกร้องให้ ส.ว.เสียสละอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องยอมรับความจริงว่าที่มาของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันมาจาก ส.ว.แต่งตั้ง เพื่อนำมาโหวตเพื่อสืบทอดอำนาจ หาก ส.ว.ไม่ตระหนักที่จะร่วมรับผิดชอบปัญหาวิกฤตบ้านเมือง อย่าให้ลูกหลานสาปแช่งเพราะต่อไปอาจจะไม่มีที่ยืนในสังคมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่จำเป็นต้องมี ส.ว.อีกต่อไป

5.ขอให้รัฐบาลยกเลิกการแบ่งแยกแล้วปกครอง หยุดใช้กลไกรัฐระดมพลให้คนใส่เสื้อเหลืองมาชุมนุมเพื่อปกป้องสถาบันเพราะเป็นการแบ่งแยกประชาชนออกจากกัน ซึ่งจะสร้างความขัดแย้งไม่สิ้นสุดโดยฝีมือรัฐบาลเอง เนื่องจากข้อเสนอของผู้ชุมนุมก็เป็นเพียงการปฏิรูปสถาบันในระบอบประชาธิปไตยเหมือนในสแกนดิเนเวีย อังกฤษและญี่ปุ่น รัฐบาลควรมีนโยบายปรองดองผู้คนในสังคมที่มีความขัดแย้งและสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการถกเถียงข้อเสนอและทางออกจากปัญหาในเชิงวิชาการร่วมกัน โดยอาจตั้งกรรมาธิการพิเศษสร้างเวทีรับฟังและให้มหาวิทยาลัยหรือสถาบันพระปกเกล้าศึกษาวิจัยในปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพื่อปฏิรูปสังคมอย่างยั่งยืนในช่วงเวลาที่ข้อเท็จจริงและข่าวปลอมถูกปล่อยออกมาพร้อมกันในอินเทอร์เน็ตมากมาย