ไม่พบผลการค้นหา
"พล.อ.ประยุทธ์" ย้ำไทยทำดีแล้วรับมือไวรัสโควิด-19 พร้อมหามาตรการเชิงรุกเตรียมความพร้อมระยะที่ 3 หากแพร่ระบาดภายในประเทศ หวังสถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ โดยกล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ต้องเตรียมการคือ เรื่องการแพร่กระจายและการแพร่ระบาดจากหลายประเทศที่ยังคงมีอยู่ในระยะที่ 1 ส่วนไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือ สามารถควบคุมได้มากพอสมควร ขณะที่ประเทศอื่นมีการแพร่กระจายมากขึ้น ไทยจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อป้องกัน ควบคุม และลดการแพร่กระจายกับคนที่เคลื่อนย้ายไปมา โดยเฉพาะจากประเทศต้นทาง ซึ่งขณะนี้ไทยทำได้ดีแล้ว แต่ตนยังอยากให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือระยะที่ 3 หากมีการแพร่ระบาดภายในประเทศขึ้นมา โดยขอทราบมาตรการการเตรียมการเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาจะได้ปฏิบัติได้ทันที 

นายกฯ กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ขอให้รายงานสรุปผลการดำเนินงานโดยย่อ เพราะตนต้องการทราบความก้าวหน้าในมิติเชิงรุกต่อไป พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่ทุกคนให้ความสนใจและเดินหน้าในเรื่องนี้อย่างดี จึงขอมอบความไว้วางใจ พร้อมคำขอบคุณ รวมทั้งขอชื่นชมและให้ความไว้วางใจกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมกันทำงานต่อไป

IMG_20200220103120000000.jpg

โดยคาดหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายได้โดยเร็วในทุกประเทศ และในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเดินหน้าความร่วมมือแก้ปัญหาในระดับประชาคมด้วย

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมแล้วนั้น ก็มีมาตรการดูแล โดยผู้ผลิตและนำเข้าต้องแจ้งต้นทุน ปริมาณการผลิต ราคาจำหน่าย ทั้งหมด รวมถึงปริมาณสต็อกสินค้า ในทุกวันที่ 10 ของเดือน เพื่อการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการควบคุมการส่งออก ตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป ตั้งแต่ 5. กพ.มีของส่งออกถึง 32 ล้านชิ้น จากที่ปกติตัวเลขเมื่อปี 2561 ทั้งปี อยู่ที่ 71 ล้านชิ้นเท่านั้น ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์พยายามควบคุมดูแลไม่ให้มีการส่งออกเพื่อหวังผลกำไร   

ขณะที่ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงมาตรการยกระดับการคัดกรองไวรัสโควิค-19 ว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการเฝ้าระวังที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศและท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง รวมถึงสถานีขนส่งสาธารณะ สถานีรถไฟฟ้า และท่าเทียบเรือทั่วประเทศ รวมถึงมีการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในเครื่องบินโดยสาร ทั้งเครื่องบินการบินไทยและไทยสมาย รวมทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถสาธารณะต่างๆ และท่าเรือโดยสาธารณะเป็นประจำ

สำหรับช่องทางการขนส่งทางอากาศ ทางท่าอากาศยานแห่งประเทศได้เพิ่มเครื่องเทอร์โมสแกน ติดตั้งในช่องทางเข้าออกสายการบินต่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ทั้งนี้ ทางกระทรวงคมนาคมพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่

ปลัดกระทรวงคมนาคม ยังเผยถึง มาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบในเส้นทางต่างๆ ซึ่งทางการบินไทยและไทยสมายล์ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงการเดินทางในเที่ยวบินประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงค์โปร์