วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่พรรคก้าวไกล มีการจัดกิจกรรมอบรม สส. เกี่ยวกับกระบวนการงบประมาณ 2567 ซึ่งจะช่วยให้ สส. “อ่านงบออก” และ “อ่านงบเป็น” เตรียมความพร้อมในการพิจารณาและอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 วาระ 1 ในสภาฯ เดือนมกราคม 2567 นำโดย ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล
เริ่มต้นช่วงเช้า ศิริกัญญา กล่าวถึงภาพรวมงบประมาณ 2567 เช่น ไทม์ไลน์การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วิธีการอ่านเอกสารและวิเคราะห์งบประมาณ สัดส่วนงบประมาณ 2567 ซึ่งมีทั้งหมด 3.48 ล้านล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไทยจัดงบประมาณแบบขาดดุลมาต่อเนื่องหลายปี โดยในงบ 2567 งบตามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับงบประมาณ 2566
ในช่วงหนึ่ง ศิริกัญญาได้กล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับงบประมาณของไทย ซึ่ง สส. ควรให้ความสำคัญ เพื่อจะสามารถพิจารณาและอภิปรายงบประมาณได้ถูกต้อง (1) งบซื้ออาวุธไม่ได้มีสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับงบประมาณทั้งหมด คือประมาณ 3 หมื่นล้านบาทจากเงิน 3 ล้านล้านบาท ส่วนที่มีปัญหาคือจำนวนบุคลากรที่มีมากไป ทั้งจำนวนนายพลและพลทหาร (ทหารเกณฑ์) ที่ต้องใช้งบประมาณจ่ายเป็นเงินเดือนจำนวนมาก
(2) หนี้สาธารณะไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น การกู้เงินไม่ใช่ปีศาจร้ายทุกเรื่อง ถ้าเป็นการกู้เงินเพื่อนำไปใช้ดำเนินโครงการที่จำเป็นและเหมาะสม เช่น สู้กับปัญหา climate change (3) กระทรวงที่ดูแลราคาสินค้าเกษตร ไม่ใช่กระทรวงเกษตรฯ แต่คือกระทรวงพาณิชย์ (4) งบท้องถิ่นไม่ได้เป็นของท้องถิ่นจริงๆ จำนวนมากเป็น “งบฝาก” หรืองบที่รัฐส่วนกลางนำมาผ่านท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นไม่สามารถเอาไปทำอะไรได้ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ
(5) การกระจายอำนาจไม่ใช่ยาวิเศษ บางเรื่องจำเป็นต้องรวมศูนย์เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น การจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิกฤติขนาดใหญ่ การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ดังนั้นต้องกระจายอำนาจให้ถูกเรื่อง (6) อย่าดูแค่ชื่อแผน ต้องดูไส้ใน เพราะบางแผนมีชื่อดูดี แต่รายละเอียดโครงการไม่สอดคล้องกับชื่อแผนเลย (7) เงินนอกงบประมาณมี 4.8 ล้านล้านบาท ดูเหมือนว่าจะเยอะ แต่จริง ๆ เอามาใช้ไม่ได้ เพราะเกือบทั้งหมดเป็นเงินในกองทุนที่มีวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(8) งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ มีทั้งที่จัดสรรให้ส่วนราชการในพระองค์โดยตรง และที่จัดสรรให้หน่วยรับงบประมาณอื่น เพื่อทำภารกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การพระราชทานเพลิงศพ โครงการตามพระราชดำริ การถวายความปลอดภัย (9) ปัญหาของงบลับ ไม่ใช่เรื่องจำนวน แต่คือการตรวจสอบไม่ได้ จึงควรผลักดันว่าแม้งบประมาณบางส่วนต้องเป็นงบลับในช่วงใดช่วงหนึ่ง แต่ไม่ควรเป็นงบลับตลอดไป เมื่อเวลาผ่านไป ต้องเปิดเผยให้สาธารณะตรวจสอบได้
จากนั้นช่วงบ่าย มีกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) แบ่งเป็น 3 กิจกรรมย่อยเพื่อให้ สส. ทดลองใช้เอกสารจริง ประกอบด้วย จำลองการเตรียมอภิปรายวาระ 1 การอภิปรายในห้องกรรมาธิการ และการอภิปรายในห้องอนุกรรมาธิการ ก่อนให้ สส. นำเสนองานจากเวิร์กชอปและแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน