ไม่พบผลการค้นหา
'โฆษกรัฐบาล' เย้ย 'ฝ่ายค้าน' จนตรอกปมจ่อดีล 'พรรคเล็ก-ธรรมนัส' ล้มรัฐบาล โวกลับประเทศเสื่อม 'ประยุทธ์' จึงต้องมาแก้

วันที่ 2 พ.ค. 2565 ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมอบ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดีลกับพรรคเล็ก และไม่ปิดทางในการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย เพื่อรวบรวมเสียงล้มรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ยิ่งใกล้วันที่จะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยิ่งชัดเจนว่า ฝ่ายค้านไม่ได้เน้นเนื้อหาอภิปราย คล้ายๆ กับว่าไม่น่าจะมีข้อมูลเด็ดอะไรอย่างที่ให้สมาชิกในพรรคสลับหน้ากันออกมาโหมโรงรายวัน แต่หันไปเน้นเรื่องของการชักชวนพรรคนั้นพรรคนี้ให้ช่วยยกมือให้เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ ซึ่งสภาพแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับคำว่าจนตรอก เห็นแล้วก็ได้แต่อนาถใจ และสงสารประชาชน ที่มีฝ่ายค้านในสภาฯ แต่ไม่เคยตระหนักถึงการทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรีของฝ่ายค้านในสภาฯ สุดท้ายก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับการอภิปรายในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่เน้นวาทกรรมมากกว่าข้อเท็จจริง โดยที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากได้เห็นธาตุแท้ของฝ่ายค้าน

ส่วนกรณีที่ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ประเทศไทยมีรัฐบาลแบบเผด็จการ ทำให้ประเทศเสื่อม และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะสู้ 2 แนวรบ คือแก้ปัญหาบ้านเมืองและสร้างประชาธิปไตยนั้น ธนกร กล่าวว่า ประเทศไทยรู้จักคำว่ารัฐบาลเผด็จการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลจาตุรนต์แล้ว และเผด็จการถึงขั้นกลายเป็นสภาฯ ผัวเมียด้วยซ้ำ จึงทำให้ประเทศเสื่อมมาตั้งแต่วันนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จึงต้องเข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงความแตกแยกของคนในบ้านเมือง และการทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นปัญหาใหญ่ จนสุดท้ายมีอดีตรัฐมนตรีถูกตัดสินจำคุกไปแล้วหลายราย

ส่วนการบอกว่าจะสู้ 2 แนวรบ คือแก้ปัญหาบ้านเมืองและสร้างประชาธิปไตยนั้น หากดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมา เชื่อว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มปัญหามากกว่าจะแก้ปัญหา และสร้างประชาธิปไตยในแบบที่ตัวเองต้องการ ไม่ใช่ในแบบสากลอย่างที่ทั่วโลกให้การยอมรับ