ไม่พบผลการค้นหา
‘ประชาธิปัตย์’ ย้ำจุดยืนโหวตให้ผู้ชนะการเลือกตั้ง ถ้า ส.ส. ไม่ช่วยกันสู้เพื่อหลักการ จะไปหวังจากพวกแต่งตั้งหรือ ซัดคนโยงโหวตหนุน ‘ก้าวไกล’ เท่ากับเห็นด้วยแก้ไข ม.112 เป็นพวกตรรกะวิบัติ

วันที่ 8 ก.ค. อลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า การเลือกตั้งคือการแสดงเจตจำนงค์ของประชาชน ไม่ว่าจะเลือกเราหรือไม่ แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นจะให้มีการเลือกตั้งทำไม และตนเสนอในหลักการประชาธิปไตย ใครชนะเลือกตั้งควรเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นสมัยก่อน ระบบเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จบแล้วหลังเลือกตั้งเมื่อพรรคชนะเลือกตั้งรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่ตอนนี้ ต้องไปผ่านการโหวตในรัฐสภา 

อลงกรณ์ ระบุอีกว่า ถ้าเราไม่ช่วยกันต่อสู้เพื่อหลักการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะหวังพวกที่มาจากการแต่งตั้งอย่างนั้นหรือ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่เป็นพรรคที่ชนะเลือกตั้งและรวมเสียงข้างมากได้ ถ้าพิธาไม่ผ่านก็เป็นพรรคอันดับ 2 เป็นการลงมติในรัฐสภา ไม่เกี่ยวกับความเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเราเป็นฝ่ายค้าน เราก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล

“ส่วนที่มองว่าการโหวตให้พิธาคือการสนับสนุนการแก้มาตรา 112 นั้น เป็นสมมติฐานแบบตรรกวิบัติ ถ้าคิดแบบนั้นก็ขอถามว่าคนกรุงเทพเลือกพรรคก้าวไกล 32 เขต จาก 33 เขต เพราะสนับสนุนการแก้มาตรา 112 อย่างนั้นหรือ ผมว่าคงไม่ใช่ และพวกเราก็คงไม่คิดแบบนั้น”

“อย่าโยงไปเลยเถิดถึงขนาดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ การเทิดทูนสถาบันเป็น DNA ของพรรค และผม พรรคนอกจากเทิดทูนสถาบันแล้ว เรายังต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ไม่ควรมีใครเรียกร้องหารถถังหรือการรัฐประหารอีกต่อไป เพราะขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค” อลงกรณ์ ระบุ