นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้ทุกอย่างต้องเดินไปตามขั้นตอน ซึ่ง ทางพรรคพลังประชารัฐ จะรอความชัดเจนของ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ก่อนเดินหน้าพูดคุยอย่างเป็นทางการ ซึ่ต้องให้เกียรติทั้งสองพรรค โดยยังบอกไม่ได้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด แต่เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ก่อนการเปิดประชุมสภาฯ
ทั้งนี้ นายธนกร ไม่กังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 เพราะมองว่าเกิดขึ้นยาก และเป็นเพียงการเดินเกมส์ของบางพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น ซึ่งมั่นใจการเมืองจะไม่มีพลิกขั้ว และพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับการสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยแน่นอน ซึ่งเมื่อจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยทางพรรคจะเดินหน้านโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชนทันทีโดยพิจารณาตามความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนกระแสข่าวการแบ่งโควต้ารัฐมนตรีลงตัวแล้วนั้น นายธนกร ระบุว่า ยังไม่มีการหารือและอยากให้มองไปทีละขั้นตอน
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้นัดพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่มีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทันที เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในเบื้องต้น โดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้รับข้อเสนอที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเข้ามาร่วมดูแลกระทรวงสำคัญ ทั้งด้านเศรษฐกิจและกระทรวงที่จะสร้างผลงาน สร้างคะแนนนิยมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นไปตามโควต้าที่แบ่งให้กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคพลังประชารัฐ 15 ตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย พรรคละ 7 ตำแหน่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 2 ตำแหน่ง นอกจากนี้ก็จะเกลี่ยให้กับพรรคที่ร่วมรัฐบาล
อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชารัฐยังคงยืนยันที่จะดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจ กระทรวงด้านความมั่นคง แม้จะมีกระแสข่าวสกัดไม่เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาคุมกระทรวงกลาโหม ก็ตาม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังไว้วางใจที่จะให้ พล.อ.ประวิตร ดูและกระทรวงกลาโหมอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวก็วางตัว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย เช่นเดิม ส่วนให้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเป็นของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยังยืนยันที่จะดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ โดยเปิดให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิไทย เข้ามาเป็น รมช. ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ ได้แก่ รมว.อุตสาหกรรม รมว.พลังงาน คาดว่าจะปล่อยให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาทำงาน
นอกจากนี้ก็ยังมีกระแสข่าวถึงการวางตัวบุคคลในกระทรวงต่างๆ ที่อาจให้พรรคร่วมรัฐบาล เข้ามารับผิดชอบ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับกระทรวงที่เหลือจะมีการเกลี่ยในพรรคพลังประชารัฐ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น