ไม่พบผลการค้นหา
'อนุพงษ์' พบผู้ว่าฯ กทม.ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เปิดประชุมสภากทม. ขณะที่ 'วิรัตน์' ส.ก.มีนบุรี พท. ดำรงตำแหน่งประธานสภา กทม. พร้อมด้วย 'ชญาดา' ส.ก.คันนายาว พท. นั่งรองประธานสภาคนที่ 1 และ 'อำนาจ' ส.ก.บางแค กก. นั่งรองประธานสภาคนที่ 2

เวลา 13.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. 2565 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร​ครั้งแรก​โดยมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะบริหารเข้าร่วม

LINE_ALBUM_220606_7.jpg

โดย พล.อ.อนุพงษ์ นั้นได้นัดหมายการประชุมสภากรุงเทพมหานคร ตามอำนาจตามความในมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 และพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 37 และได้กล่าวเปิดการประชุมว่า ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกสภากรุงเทพทุกท่านที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อทำให้การบริการสาธารณะของกรุงเทพฯ เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน 

พล.อ.อนุพงษ์​ ได้ให้สัมภาษ​ณ์แก่สื่อมวลชนหลังการประชุม​ว่า วันนี้เป็นการเปิดการประชุมสภากทม.ครั้งแรกตามกฎหมาย หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองตำแหน่ง ซึ่งตนได้หารือกับผู้ว่าฯกทม.และปลัดกรุงเทพมหานครมาแล้ว จนถึงวันนี้ที่มีการเปิดประชุมสภา โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยเรื่องการทำงานในภาพรวม

LINE_ALBUM_220606_13.jpg

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกทม.ได้แสดงเจตนารมน์ในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของกทม. และพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง โดยจะร่วมทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก 

พล.อ.อนุพงษ์​ กล่าวว่า ผู้ว่าคนนี้เป็นคนที่มีความตั้งใจสูง เป็นที่ถูกใจของประชาชน และบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดีซึ่ง กทม.ไม่มีบรรยากาศการทำงานแบบนี้มาหลายปีแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ ต้องเป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาล และท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การทำงานจะไม่มีรอยต่อแน่นอน เพราะ กทม. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีอำนาจในตัวเองตามกฎหมาย ไม่ต้องขอความเห็นจากใคร หากมีแผนพัฒนาด้านใดก็สามารถทำได้เลยตามอำนาจหน้าที่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนนั้นไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. หรือ สภาฯ กทม. เพราะ กทม.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอิสระ พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาใดทั้งสิ้น แต่หากมีเรื่องใดที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากคณะรัฐบาล ตนก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่

LINE_ALBUM_220606_18.jpg

ส่วนกรณีประเด็นปัญหาการสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกทม. เป็นหลัก เพราะที่ผ่านมา กทม.มีปัญหาแล้วหาทางแก้ไขไม่ได้ ก็ได้ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยหาทางแก้ไข 

ซึ่งขณะนี้ แนวทางการแก้ไข ต้องรอทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ แต่เมื่อมีผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ มีสภากทม. ชุดใหม่ ตนจะทำหนังสือมาถามว่า กทม.จะมีแนวทางอย่างไร หากทม.แจ้งว่ามีแนวทางดำเนินเพื่อเป็นข้อยุติ ก็จะนำเรื่องเข้า ครม.เพื่อไม่ต้องขอมติ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ว่าฯ จะหาแนวทางที่จะแก้ไขอยู่แล้ว ส่วนทางด้านกระทรวงมหาดไทยก็จะหาร่วมมือกันในการแก้ไขเช่นกัน โดยพร้อมรับแนวทางเข้าไปเสนอ ครม.

LINE_ALBUM_220606_15.jpg

"เชื่อมั่นว่า กทม.จะดีขึ้นแน่นอน ในด้านของการปกครองภายหลังมีการเปิดประชุมสภา กทม. เพราะผู้ว่าชัชชาติ มีความตั้งใจ ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก็อยู่ภายใต้การดูแลของท่านชัชชาติเช่นกัน" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว 

ส่วนกรณีที่จังหวัดอื่นๆ มีการเรียกร้องอยากเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดบ้างนั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะมีความแตกต่างกัน ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งกรุงเทพมหานครมีหน้าที่บริการสาธารณะ แต่ในพื้นที่อื่นๆ ไม่ได้มีหน้าที่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดอื่นๆ มีหน้าที่เชื่อมต่ออำนาจจากส่วนกลางลงไปในพื้นที่ ยึดโยงกับพื้นที่ ซึ่งมันคนละอำนาจกัน 

LINE_ALBUM_220606_11.jpg

นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนั้น ได้มีการเลือกประธานสภากรุงเทพมหานคร โดย ส.ก.ทั้ง 45 คน ได้มีมติเห็นชอบให้ วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้รับตำแหน่งประธานสภา พร้อมด้วย ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย ตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และอำนาจ ปานเผือก ส.ก.เขตบางแค พรรคก้าวไกล รองประธานสภาคนที่ 2