นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านนโยบายและเเผนงาน ในนามคณะทำงานเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นำคณะทำงาน จาก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงถึงความคืบหน้าแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยหลักการสำคัญคือ จะให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ( สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศจำนวน 200 คน โดยต้อง เป็นผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไปส่วนคณะกรรมการยกร่าง ส.ส.ร. กำหนดให้มี 35 คน มาจาก ส.ส.ร. 20 คน นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน 5 คน นักรัฐศาสตร์ 5 คน และผู้มีประสบการณ์อีก 5 คน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการยกร่าง ประมาณ 8 เดือน หรือ 240 วัน จากนั้นจะนำไปสู่การทำประชามติ
นอกจากนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เสนอให้มีคณะกรรมการยกร่างวิสามัญเพื่อให้การยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ง่ายกว่าเดิม โดย ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเดินหน้าทำต่อไป และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทำให้การทำงานของรัฐบาลติดขัดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่มีความจำเป็นความเร่งด่วนอะไรนั้น นายโภคิน ระบุว่า อันดับเเรกต้องแก้ ให้สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ง่ายก่อน ส่วนมาตราใดที่เป็นปัญหาเร่งด่วนก็ทำไปก่อน แต่มองว่า ต้องแก้ไขทั้งฉบับโดยต้องให้ประชาชนเห็นชอบด้วย