ไม่พบผลการค้นหา
ท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ดู ‘ยึกยัก’ จะไป ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ หรือไม่ เพราะ ‘ตัดบัวยังเหลือใย’ กับพรรคพลังประชารัฐ ของ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ในทางลึกก็เป็นที่รู้กันว่า ‘บิ๊กตู่’ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แน่นอน

หลังเปลี่ยนจากเปิดบ้านพักใน ร.1 รอ. มาเป็น ‘ร้านอาหาร’ ใกล้ที่ทำการพรรคฯ ย่านอารีย์ ใกล้บ้าน ‘บิ๊กตู่’ ทำเป็น ‘เซฟเฮ้าส์ชั่วคราว’ พบปะบรรดา ส.ส.-นักการเมือง ที่จะมาเสริมทัพ รทสช.

ที่ชัดเจนอีกคือ ดิสทัต โหตระกิตย์ ยื่นลาออกจากเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งมติ ครม.ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565

สิ่งที่ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ยังไม่ประกาศตัวชัดเจนจะไป รทสช. ส่วนหนึ่ง เพราะภายใน รทสช. ยังจัดทัพไม่เสร็จ ในการวางขุนพลส่ง ส.ส. ลงในแต่ละพื้นที่ ที่อยู่ในช่วงการ ‘ดูด’ ส.ส.-นักการเมือง จากค่ายอื่น ทั้งจาก พปชร. และ ปชป. เป็นหลัก 

สิ่งที่ต้องจับตา คือ รทสช. ของ ‘บิ๊กตู่’ กับ พปชร. จะส่ง ส.ส. ลงเขต ‘หลบกัน’ หรือ ‘ชนกันเอง’

แต่ก็มีกระแสข่าวว่าจะส่ง ‘ชนกัน’ แต่ต้องไปดูไส้ในว่า ส.ส. ที่ส่งชนกันนั้น เพื่อป้องกัน ‘คำครหา’ ในทางการเมืองว่า ‘ฮั้วกัน’ อาจส่ง ส.ส. คนละเกรดมาชนกัน เพื่อไม่ให้มาตัดคะแนนกันเองมากนัก

แต่สุดท้ายเชื่อได้ว่าหนีไม่พ้นการที่จะ ‘หลบกัน’ แต่เป็นวิธีที่ ‘แนบเนียน’ กว่าพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ส่งเลย แต่ในเวลานี้ยังคงมีปัญหาในระดับ ส.ส. เกรดเอ ว่าจะตัดสินใจไปอยู่กับ ป. ไหนกันแน่ เพราะทั้ง 2ป. ก็เดินเครื่อง ‘พลังดูด’ ตกปลาบ่อเดียวกันอยู่

ประยุทธ์ 52000000.jpg

ส่วนพรรคที่ ‘ร่างใหญ่’ อำนาจคับพรรคร่วมรัฐบาล ตีคู่บารมี ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ อย่างพรรคภูมิใจไทย มีพลังดูดดึง ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ไปซบได้ถึง 34 คน โดยเฉพาะจาก พปชร. ไปที่เพียบ จนทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ พูดทีเล่นทีจริงกึ่งประชดว่า "ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมจะได้ปิดพรรค"

แต่เอาเข้าจริงแล้ว ‘บิ๊กป้อม’ ไม่คิดปิด พปชร. แน่นอน

เพราะที่ผ่านยืนกรานเสมอว่าไม่ใช่ ‘พรรคเฉพาะกิจ’ ที่ถูกมองว่าตั้งขึ้นมาเพื่อ ‘สืบทอดอำนาจ’ ให้กับ ‘3ป.’ ต่อท่ออำนาจจากยุค คสช. การแยกพรรคระหว่าง ‘2ป.’ เหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้คือการจัดการกับ ‘ความขัดแย้ง’ ของคนที่รายล้อม ‘2ป’ โดยเฉพาะ ‘โจทก์เก่า-คู่อริ’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

นอกจาก ‘ตุ๋ย-พีระพันธ์’ แล้วยังมี ‘ต.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี’ ที่นั่งที่ปรึกษานายกฯ ได้ไม่นาน เตรียมสมัครสมาชิก รทสช. ในวัน 27ธ.ค.นี้ พร้อมกับ ‘ชัช เตาปูน’ชัชวาลล์ คงอุดม ที่ออกจากพรรคพลังท้องถิ่นไทย

สำหรับจุดยืน ‘ชัช เตาปูน’ ชัดเจนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

ส่วน ‘ไตรรงค์’ ก็ชัดเจนในจุดยืน เคยปราศรัยซัด ‘บิ๊กป้อม-ผู้กองธรรมนัส’ ช่วงเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร เมื่อต้นปี 2565

มาพร้อมกับก้าวย่าง ‘สัญญาณรอด’ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ที่กลับมาอยู่บนหน้าสื่ออีกครั้ง หลังโลว์โปร์ไฟล์เดือนกว่า

หลังถูกทั้ง ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ และ ‘สันธนะ ประยูรรัตน์’ ออกมาพาดพิงชื่อเอี่ยว ‘กลุ่มทุนจีนสีเทา’ แต่จนถึงขณะนี้ใน ‘ทางกฎหมาย’ ของฝั่ง ตร. ยังไม่มีการ’ขยายผล’ ถึง ร.อ.ธรรมนัส แต่อย่างใด

ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงยังไม่ ‘ติดบ่วงในทางกฎหมาย’ ดังนั้นการปรากฏตัวลุยงานการเมือง-ลงพื้นที่ของ ร.อ.ธรรมนัส จึงมีนัยสำคัญ

ประวิตร  ประชุม คณะรัฐมนตรี B-C4190252C3B5.jpeg

ล่าสุด ‘บิ๊กป้อม’ ได้มอบให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็น ‘ตัวแทน’ ในฐานะอดีต รมช.เกษตรฯ ตามเอกสารข่าวที่แจกให้สื่อ ไปเป็น ปประธานพิธีเปิดการประชุมสามัญประจำปี ของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในงานมีผู้ร่วมงานนับหมื่นคน

ในแง่หนึ่งก็เป็น ‘บารมี’ ที่เกื้อหนุนกัน นั่นคือ ร.อ.ธรรมนัส ก็ต้องอาศัยบารมี ‘บิ๊กป้อม’ ทำงาน ในอีกแง่ ‘บิ๊กป้อม’ ก็ต้องใช้คนอย่าง ร.อ.ธรรมนัส ในการทำงานการเมืองทั้งงาน ‘หน้าม่าน-หลังม่าน’

แม้ว่า ร.อ.ธรรมนัส จะไม่กลับเข้า พปชร. เฉกเช่น ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย คนอื่นๆ แต่ก็เป็นมือไม้ให้ ‘บิ๊กป้อม’ อยู่นอกพรรคไป

น่าสนใจว่างานนี้มี ‘ทัศนาพร เกษเมธีการุณ’ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ‘ทัศนาพร’ เป็นน้องสาว ‘ทัศนียา รัตนเศรษฐ’ ภรรยา ‘วิรัช’ มาร่วมงานด้วย ซึ่ง ‘ทัศนาพร’ ถูกจับตาว่าจะย้ายกลับ พปชร. อีกครั้ง

สิ่งนี้ตอกย้ำบทบาท ‘ธรรมนัส-วิรัช’ ที่จะกลับมาผนึกกำลังลุยงานการเมืองให้กับ ‘บิ๊กป้อม’ เฉกเช่นในยุคที่ ร.อ.ธรรมนัส ยังอยู่ พปชร.

วิรัช พลังประชารัฐ -8D6F-4C15-80AB-BF1222593CC1.jpeg

ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พูดบนเวทีตอนหนึ่งว่า ท่านรองนายกฯประวิตร ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนทุกคน รวมทั้งได้ติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน หนี้สิน แหล่งน้ำ การพัฒนาอาชีพภาคเกษตรให้แก่กลุ่มเกษตรกร ให้แก้ไขเสร็จโดยเร็ว ตรงตามข้อเรียกร้องของประชาชน 

ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ถูก พล.อ.ประยุทธ์ ‘เด็ดปีก-ริบอำนาจ’ กลายเป็น ‘รองนายกฯขาลอย’ ไม่ได้คุมกระทรวงใหญ่เต็มตัว

ต้องแบ่งโควต้าเกลี่ยอำนาจกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้อำนาจของ พล.อ.ประวิตร ทำได้อย่างมากคือแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ที่ทำกิน แก้หนี้สิน พัฒนาอาชีพ

ซึ่งเป็นงานที่ พล.อ.ประวิตร ทำมาตั้งแต่ยุค คสช. แล้ว ช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส ยังเป็น รมช.เกษตรฯ ก็ได้ช่วย พล.อ.ประวิตร เต็มที่

แต่สุดท้ายถูก ‘ปลดฟ้าผ่า’ พ้น รมช.เกษตรฯ ก็ถูกลดบทบาทในงานส่วนนี้ไป

ทั้งนี้ตัวละครสำคัญในการลงพื้นที่โคราชของ ร.อ.ธรรมนัส คือ ‘สุรทิน พิจารณ์' หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ สายตรง ร.อ.ธรรมนัส กับ ‘ประพาส โงกสูงเนิน’ ประธานเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค ซึ่ง ‘สุรทิน’ เคยเป็นประธานศูนย์ประสานงานมวลชนรัฐบาลในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงรู้จักกับ ‘ประพาส’ และเป็นสะพานเชื่อมให้รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่ง ‘สุรทิน-ประพาส’ มีเครือข่ายในพื้นที่ภาคอีสานพอสมควร

ธรรมนัส สุรทิน พรรคเล็ก งู กล้วย -2332-47B8-94E8-93740AC2383D.jpeg

ดังนั้นต้องจับตาบทบาท ร.อ.ธรรมนัส จากนี้ให้ดี ในการกลับมาเป็น ‘ขุนพลข้างกาย’ พล.อ.ประวิตร อีกครั้ง

รวมทั้งท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จากนี้ไป หลังใช้วิธีการแก้ปัญหา ‘คนละครึ่ง(ทาง)’ ตามสไตล์ทหาร ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีความหวาดระแวง ร.อ.ธรรมนัส เป็นทุนเดิม จึงไม่อยากให้อยู่ พปชร. 

ทำให้ พปชร. ขับพ้นพรรค ให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปสร้างรังใหม่

แต่ก็เปรียบเป็นการ ‘ปล่อยเสือเข้าป่า’ มีเพียง พล.อ.ประวิตร ที่คุมและขอได้ แต่สุดท้ายรังใหม่ไปไม่รอด มีเพียงชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังติดแบล็คลิสต์ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ยังกลับมา พปชร. ไม่ได้คนเดียว

แถมใน พปชร. ก็ยังเหลือคน ‘สายจันทร์โอชา’ อยู่ หาก ร.อ.ธรรมนัส กลับมา ‘ผึ้งแตกรัง’ มาอยู่ รทสช. แน่นอน

ก็ต้องอยู่ในสภาพนี้กันไปสักพัก !!