วันที่ 16 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงกรณีมีสื่อมวลชนรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ หรือ สมรสเท่าเทียม ที่พรรคก้าวไกลเสนอ แต่ตัวเองกลับไม่ลงมติในที่ประชุม โดย ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า ในการนำเสนอข่าวบางครั้งอาจบิดเบือนข้อเท็จจริงไป เวลาเอาจุดอ่อนไหวไปลง ก็อาจทำให้ประชาชนที่ติดตามพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าใจคลาดเคลื่อน

ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวานตนมาประชุมแต่เช้า พร้อมทั้งได้เรียก ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยว่ามีนโยบายรับร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ร่าง โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นร่างหลัก และอย่างที่บันทึกการลงคะแนนเสียงปรากฏออกมา คือทุกคนลงคะแนนเห็นชอบในหลักการ

“แต่ช่วง 15.00 น. ผมมีนัดประชุมกับผู้แทนภาคของพรรคเศรษฐกิจไทย จึงกลับมาไม่ทัน แต่ทันเพียงโหวตรับร่างรัฐบาล หรือก้าวไกลเป็นร่างหลักในการพิจารณาเท่านั้น ยืนยันว่าผมไม่ได้ถูกจับโป๊ะแตก ฝากสำนักข่าวที่รายงานเช่นนั้นแก้ไขด้วย ผมกับผู้บริหารของท่านรู้จักกันดี” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

สำหรับรายชื่อในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมเป็น 10 คนนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันดูสาระสำคัญที่ฝ่ายค้านนำเสนอ เราไม่สนับสนุนสาระสำคัญที่เสียหายต่อบ้านเมือง ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน รู้ดีว่าแต่ละคนเป็นยังไง มองว่า ในรายชื่อน่าเป็นห่วงทุกคน ยกเว้นแต่เพียงคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากท่านไม่ได้คุมกระทรวงไหนเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่กล่าวว่า มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงการลงมติอภิปรายฯ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่า สุชาติ กล่าวถึงใคร การลงมติก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้านเป็นผู้ลงมติ ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง

"พี่ไม่ทราบ พี่ไม่มีอิทธิพล พี่มีแต่ จีรเดช พรชัย และ บุญสิงห์" ร.อ.ธรรมนัส กล่าวติดตลก

เมื่อมองถึงเสถียรภาพของรัฐบาลที่จะประคับประคองต่อไป ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ต้องจับตาดูให้ดี ตนอยู่ในวงการเมืองมาตั้งแต่ปี 2542 ยังไม่เคยพบว่าการจะโหวตอะไรต้องมีการส่งสัญญาณให้โหวต เป็นภาพที่น่าเกลียด ประชาชนเฝ้าดูอยู่ การเป็นผู้แทนราษฎรต้องเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการลงมติในการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566 ที่พรรคเศรษฐกิจไทยเหมือนจะตั้งเป้าไว้อย่างหนึ่ง แต่ถึงเวลาลงมติกลับโหวตตรงกันข้าม ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธว่าไม่เคยมีการตั้งเป้า และการลงมติไม่ได้มีวาระเดียว ยังมีวาระที่ 2-3 ในวาระแรกยังไม่เห็นสาระสำคัญของงบประมาณ ต้องดูวาระต่อไปในชั้นกรรมาธิการ อันไหนไม่ถูกต้อง ต้องตัด อย่าฝืนใช้เสียงส่วนใหญ่ทำ งบประมาณยังมีเวลา 

ร.อ.ธรรมนัส ยังปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่ว่ามีพรรคฝ่ายค้านพยายามมาดีลคะแนนเสียงในการอภิปรายฯ ว่า ตนไม่รับดีล เราเป็นตัวของตัวเอง

สำหรับการเลือกตั้งที่ลำปาง ที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย พาดพิงถึงผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย ว่าเคยถูกดำเนินคดี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คงเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจาก กกต.ตัดสินว่าเป็นความผิดที่เกิดจากบุคคลภายนอก ไม่ใช่ผู้สมัคร จึงไม่ตัดสิทธิในการลงเลือกตั้งอีกครั้ง ต้องดูสาระสำคัญที่ศาลวินิจฉัย การโจมตีอย่างนี้ต้องดูข้อเท็จจริง