วันที่ 25 พ.ค. 2565 บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตนายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงปัญหาภายในพรรค หลังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค มีความเห็นขัดแย้งกันจนถึงขั้นประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น โดยมองว่า ปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรง เพราะเป็นผู้นำพรรคทั้งคู่ 

บุญสิงห์ เผยว่า เมื่อทราบเหตุการณ์ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคก็ได้มีการหารือกัน และมีความเห็นร่วมกันว่า หากยังปล่อยให้มีความขัดแย้งเช่นนี้ จะทำให้พรรคเกิดความเสียหายและบอบช้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุให้คณะกรรมการบริหารทั้ง 15 คนยื่นหนังสือขอลาออกในเวลาต่อมา เพื่อให้พรรคมีการจัดประชุมใหญ่ภายใน 45 วัน เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

บุญสิงห์ ย้ำว่า เหตุที่ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะเคยมีประสบการณ์จากครั้งเมื่ออยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ จนเลยเถิดถึงขั้นมีสมาชิกถูกขับออกจากพรรค จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่พรรคเศรษฐกิจไทยอีก เพราะต้องการมุ่งเน้นให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง และมีความเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม 

เมื่อถามถึงรายละเอียดความขัดแย้งภายในระหว่างหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคนั้น บุญสิงห์ ระบุว่า ตั้งแต่ประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2565 คือวันสุดท้ายที่ได้พบกันครบทุกคน และหลังจากนั้น ส.ส.พรรค ต่างก็กลับพื้นที่ต่างจังหวัดกันหมดแทบจะไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ เลย แต่มาทราบความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) ซึ่งถ้ามีโอกาสก็อยากถามเหมือนกันว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นต้นสายปลายเหตุคืออะไร ก่อนย้ำว่าเรื่องแบบนี้อยากให้คุยภายในพรรคก่อน ไม่อยากให้เรื่องออกไปข้างนอก และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจความคิดว่าทำไมต้องเอาปัญหาออกไปข้างนอก

"ถ้าความขัดแย้งเกิดขึ้นมายังไม่เป็นไร แต่ต้องอยู่คุยกันภายในพรรค แต่ถ้าออกไปข้างนอกแล้ว ก็ต้องรีบหยุดปัญหา กลไกของพรรคจึงต้องใช้วิธีนี้" บุญสิงห์ กล่าว 

ส่วนการตัดสินใจลาออกของคณะกรรมการทั้ง 15 คนนั้น บุญสิงห์ ยืนยันว่าไม่ได้คุยกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค แต่ละคนตัดสินใจกันเอง 

"ไม่ได้คุยกับทั้งหัวหน้าพรรค ไม่ได้คุยกับทั้ง ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้คุยกับสักคน เพราะเราเคยมีประสบการณ์อยู่ เราเคยเจอปัญหาคล้ายๆ อย่างนี้มาก่อน"

ส่วนสาเหตุของความขัดแย้งคือเรื่องการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ บุญสิงห์ เผยว่า พรรคแสดงท่าทีชัดเจนว่าเรายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่มีสมาชิกพรรคเป็นรัฐมนตรี เรายังชัดเจนว่า จะสนับสนุนให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้บ้านเมืองขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เช่น เรื่องการโหวตงบประมาณปี 2566 ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนจะได้ประโยชน์ ถึงแม้ว่างบประมาณบางตัวจะฟุ่มเฟือย แต่ก็มาตัดภายหลังได้ ไม่มีปัญหา 

บุญสิงห์ ยังย้ำว่า ไม่ใช่เกมการเมืองบีบหัวหน้าพรรคลาออก แต่หวังใช้กลไกนี้หยุดปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว และสำหรับผู้ที่เหมาะสมกับตพแหน่งหัวหน้าพรรคคนต่อไป บุญสิงห์ ระบุยังไม่ได้มองไว้ พล.อ.วิชญ์ อาจจะอยู่ต่อก็ได้ อยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคว่าจะเลือกใคร 

สำหรับกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เตรียมจะนั่งหัวหน้าพรรคเอง บุญสิงห์ ระบุว่า วันนี้ตั้งใจจะรอถามจาก ร.อ.ธรรมนัส เหมือนกัน ว่าขัดแย้งอะไรกับหัวหน้าพรรค แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ท่านจะมาเป็นหัวหน้าพรรค มีโอกาสทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องเป็นหัวหน้าที่นำพรรคให้เข้มแข็ง ทำงานให้ประชาชนได้ 

ส่วนความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะดึงพรรคกลับมา บุญสิงห์ ยอมรับว่า ก็เพิ่งทราบจากข่าว แต่ภายหลังย้ายมาทำพรรคเศรษฐกิจไทย มีความมุ่งหวังว่าอยากจะทำให้พรรคนี้เป็นพรรคที่เข้มแข็ง ขับเคลื่อนบ้านเมืองได้ ยืนยันจะทำพรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคจะไม่แตกอย่างแน่นอน