ไม่พบผลการค้นหา
ปิดประตูดีล! "ทักษิณ" ยัน ไม่เคยคุยกับ "วิรัช-ป้อม" มานานกว่า 10 ปี มั่นใจ "เพื่อไทย" ไม่โง่ยกเก้าอี้นายกฯ ให้ "ประวิตร"

วันที่ 27 มี.ค. 2556 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ถึงกรณีกระแสข่าวดีลลับ จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งกล่าวโดย วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า 

ตอบ วิรัช "เรื่องยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม"

1.ผมไม่ได้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย

2. ผมไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัชมานานมากแล้ว อีกทั้งไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว

3. ผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง เชื่อว่าพรรคไม่โง่พอที่จะยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม

S__3309572.jpgS__3309572.jpg



'ภูมิธรรม' อัด 'วิรัช' ฝันกลางวัน

ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ได้กล่าวถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหาว่า มีการตกลงกันยอมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทย โดยคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใครหรือไม่ พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเดินหน้ารณรงค์หาเสียงให้เลือกพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ในสภาให้ถึง 310 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะขณะนี้ปัญหาของประเทศ คือ ส.ว. 250 คน ที่ถือว่าเป็นตัวปัญหา หากพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียง ขึ้นไป ไม่มีเหตุผลใดที่จะจับมือกับใคร มีเงื่อนไขเดียว คือจับมือกับพรรคการเมืองที่มีกรอบความคิดตรงกัน หรือฝ่ายค้านที่เคยทำงานร่วมกันมา 

การมีคนพยายามที่จะโหนพรรคเพื่อไทย เพื่อทำลายอำนาจที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน คนที่จะตัดสินใจการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและตัดสินใจว่าใครเป็นรัฐบาล คือประชาชน ถ้าคะแนนเสียงออกมาอันดับ 1 พรรคนั้นก็ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล อันดับถัดมา ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับถัดไป ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆเรื่อง 

จึงขอย้ำอีกครั้ง การจับมือกับพลังประชารัฐ จะจับมือพรรคนั้นพรรคนี้ เป็นเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น หรือมีเจตนาแอบแฝงที่จะฉุดรั้งความนิยมของประชาชนออกไปจากเรา ขอให้ประชาชนมั่นใจ วันนี้พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นเป็นรัฐบาลให้ได้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่เกิดขึ้น และจะไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ขอความเป็นธรรมให้พรรคเพื่อไทยและประชาชนด้วย 

ภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย ต้องเป็นนโยบายหลัก ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ส่วนพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จะมาคุยกัน ร่วมมือกันในนโยบายที่รองลงมา ต้องไม่ขัดกับนโยบายหลักของเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องต่อรองตำแหน่งและกระทรวง และถ้าจะทำให้ได้ถึง 376 เสียง เรื่องเดียวที่จะทำ คือการจับมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เคยทำงานด้วยกันมา แต่ตำแหน่งนายกฯ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียง จะไม่ให้พรรคอื่นโดยเด็ดขาด เพราะขัดเจตนารมณ์ประชาชน หากเป็นไปได้ เราจะยังไม่จับมือกับใครแน่นอน 

สำหรับกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า จะมีความชัดเจนในช่วงเช้าวันที่ 4 เมษายน 2566 ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ก็ได้ อย่าไปคาดหวัง อาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ ระบบบัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นระบบที่พรรคเสนอต่อประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้ตัดสินใจ จะอยู่หรือไม่ จะต้องผ่านประชาชน 

“อยากถามวิรัชว่าฝันกลางวันไปหรือเปล่า ในวันนี้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าแลนด์สไลด์อย่างเดียว เราไม่สนับสนุนคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีการไปคุยกับวิรัช เวลานี้พรรคเพื่อไทย ไม่มีมติใดๆทั้งสิ้น เราไม่สนับสนุนการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ” ภูมิธรรม กล่าว