วันที่ 3 ก.ค.66 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนมีการแจ้งความดำเนินคดีกันที่ สภ.บ่อวิน ชลบุรี อันถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายเพศหญิง อายุ 26 ปี ชาว กทม. ได้เข้าแจ้งความเอาผิด ส.ส.พรรคก้าวไกล กทม.ที่ สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 ในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง เป็นความอาญาแผ่นดิน แม้เรื่องที่เกิดขึ้น ส.ส.พรรคก้าวไกลผู้ตกเป็นผู้ต้องหาจะโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวยอมรับผิดแล้ว แต่ก็มิได้ไปพบพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนตามที่นัดหมายแต่อย่างใดไม่ ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบันการเมืองเป็นอย่างมาก
กรณีดังกล่าว เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติของการหาเสียงของ ส.ส.รายดังกล่าวพบว่า เคยมีบทบาทในการรณรงค์การใช้ความรุนแรงต่อสตรีและส่งเสริมบทบาทของสตรี เพื่อสังคมที่คนเท่ากันมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหาเสียงที่ผ่านมา แต่ทว่าเหตุที่ถูกแจ้งความกลับเป็นเรื่องย้อนแย้งโดยสิ้นเชิง และยังเพิกเฉยต่อการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งผู้แทนราษฎรพึงปฏิบัติให้รวดเร็วเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของสังคม แต่กลับประวิงเวลาออกไป อันชี้ให้เห็นถึงตัวตนและพรรคการเมืองต้นสังกัดที่โฆษณาชวนเชื่อทางนโยบายมาโดยตลอดว่า “สังคมต้องเท่าเทียมกัน"
การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำผิดกฎหมายเยี่ยงนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ไต่สวนเอาผิดนักการเมืองเหล่านี้ได้ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 อันเป็นความผิดหลายข้อ อาทิ ต้องยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง รวมทั้งไม่กระทําการอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุทําให้ผู้ถูกกระทําได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น
อนึ่ง กรณีดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับอาญาแผ่นดิน เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว ไม่สามารถยอมความได้ ความพยายามที่จะเกี๊ยะเซี๊ยะกัน เพื่อยุติเรื่อง โดยมีการแจ้งว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้วนั้น ผู้เสียหายอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จต่อเจ้าหนักงานตาม ปอ.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าวองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนเอาผิดว่าการกระทำหรือพฤติกรรมของ ส.ส.รายดังกล่าวว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนให้รีบดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษตามครรลองของกฎหมาย ป.ป.ช.ต่อไป