ธนาคารดอยซ์แบงก์ ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันที่มีสำนักงานทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยประกาศปรับโครงสร้างธนาคารครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(7 ก.ค.) โดยระบุว่าจะมีการปรับลดพนักงานทั่วโลกกว่า 18,000 คน ซึ่งจะมีผลในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ และจะเริ่มที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกก่อนเป็นภูมิภาคแรก โดยมีเป้าหมายให้เหลือพนักงานทั่วโลกทั้งหมด 74,000 คน

คริสเตียน เซวิง ประธานบริหารสุงสุดของธนาคารดอยซ์แบงก์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในรอบสองทศวรรษ ระบุนี้คือการเริ่มต้นใหม่ของธนาคารดอยซ์แบงก์

"เรากำลังสร้างธนาคารที่จะทำกำไรมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น ใช้นวัตกรรมมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นที่มากขึ้น"

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดอยซ์แบงก์ประสบกับปัญหาทางการเงินจากวิกฤตการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯหลังจากพยายามแข่งขันกับสถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐฯ และเมื่อปี 2017 ศาลสหรัฐฯ สั่งให้ดอยซ์แบงก์ จ่ายค่าปรับจำนวน 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ฐานสร้างความเข้าใจผิดให้นักลงทุนในการขายสินทรัพย์ที่ติดจำนอง ในวิกฤตการทางการเงินในปี 2008 และยังถูกศาลรัสเซียปรับเงินจำนวน 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้อกล่าวหาฟอกเงินของรัสเซีย

แผนปรับโครงสร้างของดอยซ์แบงก์ นอกจากนี้จะปรับลดพนักงานทั่วโลก ดอยซ์แบงก์ยังประกาศแผนถอนตัวจากธุรกิจการลงทุนในตลาดทุนทั่วโลกและจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจบริหารเงินทุนบริษัทมากขึ้น

เวอร์เนอร์ สเตนมูลเลอร์ ประธานบริหารธนาคารดอยซ์แบงก์สาขาเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า "โครงสร้างของธนาคารเพื่อการลงทุนใหม่นี้จะมีขนาดที่เล็กลง แต่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะโฟกัสไปที่การเงิน ตลาดเงินทุนและการให้คำปรึกษาการลงทุน การขายและธุรกิจการค้า"

การปลดพนักงานของดอยซ์แบงก์ เป็นการปรับลดคนครั้งใหญ่ที่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ที่สถาบันการเงินของสหรัฐฯ เลย์แมน บราเธอร์ปลดพนักงานออกกว่า 26,000 คน หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐฯ

ที่มา CNN/BBC/CNA