ไม่พบผลการค้นหา
รำลึก 13 ปี 'คนเสื้อแดง เมษา-พฤษภา 53' ตัวแทนพรรคฝ่ายประชาธิปไตยตบเท้าเข้าร่วม 'ธิดา-หมอเหวง' ปักธงทวงคืนความยุติธรรม ลากคนสั่งสลายชุมนุมมาเอาผิด

วันที่ 10 เม.ย. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนินกลาง ในงาน 'รำลึก 13 ปี เมษา-พฤษภา 2553' เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 และคดีที่มีผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับการสะสาง ในการนี้ มีแกนนำ นปช. และตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมในพิธีสงฆ์ วางพวงมาลารำลึกวีรชน และร่วมปาฐกถาเสนอแนวนโยบายเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กลุ่มคนเสื้อแดง

ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. เน้นย้ำว่า ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว คนเสื้อแดงไม่ได้เพียงจัดงานรำลึกเท่านั้น แต่ยังมีความคืบหน้าในทางคดี ได้รวบรวมข้อมูลว่าผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เพราะที่ผ่านมา 13 ปีไม่มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด แม้ผู้เสียชีวิตจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทหารตำรวจก็ตาม ในกว่า 300 คดีที่เกี่ยวข้อง มีร้อยกว่าคดีที่ฟ้องร้องประชาชน

ต้องขอขอบคุณพรรคการเมืองที่ต้อนรับเป็นอย่างดี เมื่อครั้งคนเสื้อแดงนำข้อเสนอไปยังรัฐสภา โดยข้อเสนอประกอบด้วย ติดตามการดำเนินคดีให้เดินหน้าต่อได้ ให้ทหาร นักการเมือง ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม ไม่ต้องมีอภิสิทธิ์ แต่นำตัวมาขึ้นศาลปกติเหมือนคนทั่วไป พร้อมยืนยันว่าคนเสื้อแดงพร้อมอยู่เคียงข้างพรรคการเมืองที่สู้เพื่อประชาธิปไตย

"นิยามของคนเสื้อแดง คือผู้รักประชาธิปไตย และรักความยุติธรรม ถ้าคุณรักสิ่งนี้ คุณก็คือคนเสื้อแดง แต่ถ้าคุณเคยใส่เสื้อแดง แต่คุณไม่รักประชาธิปไตย ไปรักคนที่สืบทอดอำนาจ คุณไม่ใช่คนเสื้อแดงอีกต่อไป" ธิดา กล่าว

ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ ได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าคณะประชาชาผู้ทวงคืนความยุติธรรม จะไม่หยุดยั้งภารกิจเพื่อคืนความยุติธรรมให้ผู้ที่ล่วงลับในประเทศนี้ต่อไป ภาคประชาชนและภาคการเมืองล้วนสนับสนุนประชาธิปไตย แต่ต้องประสานงานกันทั้งในรัฐสภา ขณะที่ประชาชนก็ต้องเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้พรรคการเมืองด้วย พร้อมขีดเส้นภายใน 4 ปี พรรคการเมืองจะสามารถคืนความเป็นธรรมให้คนเสื้อแดงปี 2553 ได้หรือไม่

ทั้งนี้ นพ.เหวง ยังเน้นย้ำว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ขอให้ประชาชนร่วมกันเทคะแนนเลือกพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ถ้าหากชอบพรรคไหนก็ให้เลือกพรรคนั้น ตามคำพูดที่ว่าร้านเนื้อชอบลางยา แต่ขอให้แต่ละพรรคการเมืองอย่าทะเลาะกัน เพราะฝ่ายเผด็จการจะได้ใจ

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวถึงความไม่ชอบธรรมในการทวงคืนพื้นที่ของรัฐบาลในปี 2553 บริเวณ ถ.ราชดำเนิน ทั้งที่เป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่ได้หวงห้าม ผู้ชุมนุมไม่ได้ไปปิดสนามบินหรือปิดทำเนียบ พร้อมมองว่า แม้การใช้กระบวนการทางกฎหมายนำตัวผู้สั่งการมาลงโทษจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากประเทศยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

จากนั้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะอดีตแกนนำ นปช. กล่าวปราศรัยถึงการต่อสู้ของคนเสื้อแดง โดยย้ำว่าเป็นสิ่งสำคัญและทรงคุณค่าที่สุดที่ตนเคยมีโอกาสได้ทำ เหตุการณ์ความสูญเสียในปี 2553 ยังฝังอยู่ในใจตนเสมอ ในชีวิตตนไม่มีอะไรหนาวเท่าน้ำตาของประชาชนในวันนั้นอีกแล้ว ตนไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรให้ดีไปกว่านี้ จึงได้ตั้งชื่อลูกสาวของตนว่า ชาดอาภรณ์ แปลว่าเสื้อแดง

"มิตรภาพคนเสื้อแดงงดงาม คนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน แต่แบ่งข้าวแบ่งน้ำกันกิน และนอนเคียงข้างกันได้ทุกเส้นทางถนน คนเสื้อแดงไม่เคยถามว่าคุณรวย หรือคุณจน คุณมาชุมนุมด้วยพาหนะชิ้นไหน ถ้ามาปูเสื่อข้างกันก็นั่งหลังพิงกัน" ณัฐวุฒิ กล่าว

จากนั้น เป็นการเสวนาข้อเสนอของแต่ละพรรคการเมืองต่อการทวงคืนยุติธรรมของคนเสื้อแดง ประกอบด้วย ขัตติยา สวัสดิผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และ ฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ รองเลขาธิการ พรรคประชาชาติ