ในวาระครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 ญาติวีรชนคนเสื้อแดง ร่วมกันจัดพิธีทำบุญถวายสังฆทานและบังสุกุล ณ ศาลาการเปรียญ วัดเสมียนนารี เพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ภายในงานมีป้ายรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 99 ราย พร้อมภาพใบหน้าวีรชนบางส่วนมาติดตั้งไว้ประกอบการรำลึก

นอกจากเหล่าญาติวีรชนและประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมี 4 อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้แก่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ และ ก่อแก้ว พิกุลทอง เดินทางมาร่วมงานด้วย

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีกระบวนการใดๆที่จะคลี่คลายความจริงและหยิบยื่นความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสีย การที่มวลชนกลุ่มต่างๆเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในวันนี้ เป็นเครื่องตอกย้ำว่าเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ทุกฝ่ายที่ยืนหยัดในหลักการประชาธิปไตยร่วมกันต่อสู้

การที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ในยุคหลังได้ติดตามและศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย แล้วออกมาร่วมรำลึกกับคนเสื้อแดงนั้น ณัฐวุฒิ เชื่อว่า ถ้าวีรชนคนเสื้อแดงผู้จากไปเมื่อ 12 ปีที่แล้วยังอยู่ตรงนี้ ทุกดวงวิญญาณจะมีความภาคภูมิใจ เพราะเราผ่านความเจ็บปวดมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะชีวิต ร่างกาย อิสรภาพ หรือถูกด้อยค่าเหยียดหยามจากคนบางกลุ่ม ดังนั้น เมื่อคนรุ่นใหม่เห็นอกเห็นใจและโอบรับการต่อสู้ของคนเสื้อแดง จึงถือเป็นเกียรติยศของประชาชน

ด้าน นพ.เหวง บอกว่า ปัจจุบัน มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุดแล้ว 2 เรื่อง เป็นหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 คือ 1.ไม่มีกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำ และ 2.คนเสื้อแดงไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง ตนจึงอยากส่งเสียงไปยังสังคมว่า ควรจะเรียกร้องให้ 1.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ทบทวนและหยิบยกกรณีของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นมาพิจารณาใหม่ 2.มีการจัดตั้งคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ และจัดทำอนุสรณ์สถานคนเสื้อแดง เพื่อยืนยันในข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว

และ 3.พรรคการเมืองที่อ้างว่าอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ควรสานต่อเจตนารมณ์ของคนเสื้อแดงกับการเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ธิดา กล่าวถึงกรณีที่วันนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. จัดงานรำลึกให้กับ 7 พลทหารผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในการสลายการชุมนุม ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ว่ากองทัพจะจัดงานรำลึกขึ้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่จำนวนพลทหารที่เสียชีวิตมีมากกว่านั้น เช่น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ไม่เคยเชื่อว่าตัวเองจะถูกยิงจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต จึงขอฝากการบ้านไปยังกองทัพ ต้องเปิดเผยความจริงออกมา ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของพลทหารทุกนายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร

ก่อแก้ว ระบุว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารล้อมปราบเข่นฆ่าพลเมืองผู้ปราศจากอาวุธนั้น ต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในสังคมไทย ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ต้องระงับยับยั้งไม่ให้มีการออกคำสั่งเช่นนี้อีกต่อไปในอนาคต และต้องมีการนำตัวผู้ออกคำสั่งเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย