ในวันนี้ (23ก.ย.) นักการเมืองอินโดนีเซียทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาล รวมไปถึงผู้สมัครสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียร่วมเปิดแคมเปญรณรงค์การเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายน ปี 2019 โดยทั้งนายโจโควี วิโดโด และนายปราโบโว สุเบียนโต ได้ร่วมกันสาบานตน และปล่อยนกพิราบเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสันติ 

นายชัลกิฟลิ ฮัดซัน ประธานพรรคNational Mandate ของอินโดนีเซียกล่าวว่า 'แคมเปญรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อสันติภาพดังกล่าวมีความสำคัญมาก เพราะเราจัดการเลือกตั้งทุกๆ 5 ปี และเราจะต้องไม่มาต่อสู้กันในทุกๆ 5 ปีเช่นเดียวกัน แต่การเลือกตั้งเป็นการแข่งขันกันระหว่างพี่น้อง เพื่อน และสมาชิกในครอบครัว'

(ประธานาธิบดีโจโควี วิโดโด และนายปราโบโว สุเบียนโต)

ทั้งนี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียเมื่อปี 2014 ข่าวปลอมและการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครรับเลือกตั้งถูกหยิบยกมาใช้ในการรณรงค์หาเสียง ในครั้งนั้นนายโจโควี ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์และมีความสัมพันธ์กับจีนอย่างลับๆ

ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมในตัวนักการเมืองอินโดนีเซียรอบแรกโดยหน่วยงานIndonesian Survey Circle (LSI) ระบุว่า ประธานาธิบดีโจโควี วิโดโด ได้รับคะแนนนิยม 52 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คู่แข่งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่าง ปราโบโว สุเบียนโต ได้รับคะแนนนิยมเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่า หลายปีที่ผ่านมาชาวอินโดนีเซียมีความต้องการผู้นำที่มีบุคลิกที่เข้มแข็งและเด็ดขาดอย่างนายพลซูฮาร์โตมากขึ้น ซึ่งบุคคลิกดังกล่าวฉายชัดในคู่แข่งอย่างนายปราโบโว ทั้งนี้แม้ว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายวิโดโดจะสามารถถ่วงดุลอำนาจระหว่างกลุ่มอิสลามอนุรักษ์นิยม กองทัพ และกลุ่มการเมืองต่างๆของอินโดนีเซียได้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของอินโดนีเซียได้ ทั้งๆที่เป็นนโยบายอันโดดเด่นที่สุดของรัฐบาลนี้

ปัจจุบันอินโดนีเซียนับเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก อินเดียและสหรัฐฯ โดยมีพลเมืองกว่า 260 ล้านคนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

ที่มา SCMP / Jakata Post