นายอาลีฟ ยะห์ยา รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร 23 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า อินโดนีเซียสามารถแข่งขันกับตลาดการท่องเที่ยวของไทยและมาเลเซียได้ และคาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียอาจแซงหน้าไทยภายใน 5 ปี

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซียระบุว่า ในปี 2014 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียถูกจัดอันดับอยู่ที่ 70 ของโลก แต่เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา อินโดนีเซียก้าวกระโดดมาอยู่ในอันดับที่ 20

ปีที่ผ่านมาอินโดนีเซียมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกว่า 14 ล้านคน และมีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียกว่า 15,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 501,000 ล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกว่า 35 ล้านคน และมีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมดังกล่าวกว่า 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,485,000 ล้านบาท

ในปีนี้ทางการอินโดนีเซียตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวไว้ที่ 18 ล้านคน ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะทำเงินได้กว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นายอาลีฟคาดว่าในปี 2019 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียจะมีเงินสะพัดกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่ผ่านมาอินโดนีเซียได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตการท่องเที่ยวที่เร็วที่สุดในอาเซียน โดยปีที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวอินโดนีเซียขยายตัวกว่าร้อยละ 22 ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยู่ที่ร้อยละ 6.4 และในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอาเซียนเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7

ที่มา the jakarta post