ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของรัฐมนตรีสาธารณสุขและแพทย์ศาสตร์ศึกษา ระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม 2561 ว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจระหว่าง 2 ประเทศที่จะร่วมกันพัฒนาระบบสุขภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนโดยกำหนดให้นโยบายสุขภาพอยู่ในทุกนโยบายสาธารณะ และเห็นตรงกันว่า การลงทุนด้านสุขภาพเป็นการลงทุนสำคัญเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งอิหร่านมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง โดยมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการปฏิรูป ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ศาสตร์ศึกษาเข้าเป็นกระทรวงเดียวกัน สามารถผลิตบุคลากรด้านสุขภาพทุกสาขาได้เพียงพอและกระจายทุกจังหวัด ทำงานด้านการป้องกันและรักษา โดยใช้ชุมชนเป็นฐานและความร่วมมือของท้องถิ่น ทำให้ประชาชนอิหร่านเข้าถึงบริการได้ร้อยละ 90
สำหรับความร่วมมือต่อจากนี้ จะเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยอิหร่านจะเรียนรู้จากประเทศไทยในหลายด้าน โดยเฉพาะระบบประกันสุขภาพ การพัฒนาระบบการเงินการคลังสุขภาพ โดยใช้หลักการ SAFE คือ การที่รัฐบาลและประชาชน สามารถรับภาระรายจ่ายด้านสุขภาพอย่างยุติธรรม คุ้มค่า โดยใช้การประเมินเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ. ปิยะสกล กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องการประกันสุขภาพแล้ว สิ่งที่จะเรียนรู้จากประเทศไทย คือ การบูรณาการสุขภาพให้อยู่ในทุกนโยบาย (Health in All Policies) ซึ่งประเทศไทยได้ใช้กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ซึ่งอิหร่านได้ขับเคลื่อนประเด็นนี้ โดยมีการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติสำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา