นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทบทวนการแก้ไขสัญญาเพื่อเพิ่มค่าปรับแพทย์ใช้ทุน ว่า ขณะนี้กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือกสพท. ที่ทำหน้าที่ผลิตแพทย์ทั้งหมดของประเทศไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี ศิริราชพยาบาล รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างหารือเรื่องค่าใช้จ่ายในการผลิตแพทย์ของแต่ละสถาบัน เพราะแต่ละโรงเรียนแพทย์ต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน ตามการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอาจทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นตามมาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ฐานในการคิดค่าปรับแพทย์ใช้ทุนของกระทรวงสาธารณสุข จะใช้ค่ากลางที่เหมาะสมถัวเฉลี่ยกันแต่ก็คงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยปัจจุบันค่าปรับอยู่ที่ 400,000 บาท เป็นอัตราที่ใช้มานานกว่า 30-40ปี
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขและ กสพท.หารือการปรับสัญญาฯ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพราะต้องการเงิน แต่ต้องการให้มีแพทย์อยู่ในระบบเพียงพอ รวมทั้งได้ทราบความต้องการ หรือแรงโน้มน้าวใจที่จะเข้ามาเรียนแพทย์ ซึ่งจำนวนเงินค่าปรับต้องมีความเหมาะสมตามสภาวะความเป็นจริงในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีแพทย์จบใหม่ที่ยอมใช้ทุน เพืิ่อลาออกทันที เนื่องจากไม่ประสงค์ที่จะลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ประมาณ 10-20 คนต่อปี ส่วนแพทย์จบใหม่อยู่ในระบบได้ในปีต้นๆ มีมากกว่าร้อยละ 80 จากแพทย์ที่จบมาประมาณปีละ 3,000 กว่าคน โดยสาเหตุการลาออกนอกระบบนั้นเป็นเรื่องของบุคคล ไม่ได้เป็นปัญหากับระบบมากนักแต่ก็มีแนวโน้มมากขึ้น เพราะฉะนั้น การผลิตแพทย์ออกมาจะต้องเพิ่มให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังร่วมมือกันทำอยู่ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องอย่าได้กังวล ทุกอย่างทำเพื่อความเหมาะสม