ไม่พบผลการค้นหา
ทางการซาอุดีอาระเบียยอมรับว่า 'จามาล คาชอกกี' ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีฯ ถูกเจ้าหน้าที่สังหารในสถานกงสุลจริง และจะเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ยืนยันว่ามกุฏราชกุมารไม่ได้สั่งฆ่า

นายอะเดล อัล-จูเบียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ยอมรับกับสำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ของสหรัฐฯ ว่านายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าวซาอุดีอาระเบียที่มักวิจารณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุด ถูกสังหารภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีจริง

นายอัล-จูเบียร์ระบุว่า การเสียชีวิตของนายคาชอกกีเป็น 'ความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่' ที่เกิดจาก 'ปฏิบัติการที่เป็นอันธพาล' แล้วเจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็พยายามจะอำพรางคดี แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชาก็ไม่รู้เรื่องนี้ แต่ทางการก็ยังไม่ทราบว่าศพของนายคาชอกกีอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ เจ้าชายโมฮัมเหม็ดไม่ได้รับสั่งให้สังหารนายคาชอกกีอย่างที่ทั่วโลกกำลังกล่าวหา

ด้านนายเรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีระบุว่า วันที่ 23 ต.ค.นี้ จะมีการนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้มาเปิดเผยในทราบทั่วกันในรัฐสภา

ไทม์ไลน์คดีคาชอกกี

2 ต.ค. -- นายคาชอกกีเดินทางไปทำเอกสารหย่ากับภรรยาชาวซาอุดีฯ ตามนัดหมายของสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูลของตุรกี แต่ก็ไม่ออกมาจากสถานกงสุลอีกเลย คู่หมั้นเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลและได้คำตอบว่านายคาชอกกีออกไปทางประตูหลังของสถานกงสุลแล้ว แต่ทีมสอบสวนของตุรกีเชื่อว่า นายคาชอกกียังอยู่ในสถานกงสุล และอาจถูกสังหารไปแล้ว

6 ต.ค. -- สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูลเปิดอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่านายคาชอกกีไม่ได้อยู่ในสถานกงสุล พร้อมระบุว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการลักพาตัวนายคาชอกกีไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง

10 ต.ค. -- ตุรกีเปิดเผยภาพทีมสังหาร 15 คนของซาอุดีอาระเบียและการเข้าออกสถานกงสุลในวันที่นายคาชอกกีหายตัวไป

13 ต.ค. -- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ข้อกล่าวหาของตุรกีว่าทางการซาอุดีอาระเบียสังหารนายคาชอกกีเป็นคำโกหกและเป็นการกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐาน ขณะเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียได้เดินทางไปตุรกีเพื่อที่จะเข้าร่วมการสืบสวนสอบสวนและ 'ค้นหาความจริงทั้งหมด' เกี่ยวกับคดีการหายไปของนายคาชอกกี

17 ต.ค. -- แหล่งข่าวในตุรกีเปิดเผยรายละเอียดโดยอ้างอิงคลิปเสียงที่นายคาชอกกีอัดและอัปโหลดขึ้นคลาวด์ขณะเดินทางเข้าไปในสถานกงสุล ซึ่งมีเสียงที่เป็นหลักฐานว่านายโมฮัมหมัด อัล-โอไทบี กงสุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูล มีส่วนรู้เห็นกับการทรมานและสังหารนายคาชอกกีในสถานกงสุล อีกทั้งยังบ่งบอกว่ามีการทรมาน สังหาร และหั่นชิ้นส่วนร่างกายนายคาชอกกีทั้งเป็นอีกด้วย

20 ต.ค. -- ทางการซาอุดีอาระเบียออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่านายคาชอกกีเสียชีวิตแล้ว หลังจากนายคาชอกกีมี 'เรื่องชกต่อย' กับคนภายในสถานกงสุล

21 ต.ค. -- ทางการซาอุดีอาระเบียระบุว่า เจ้าหน้าที่ 15 คน 'ทำเกินคำสั่ง' โดยเจ้าหน้าที่พยายามจะปิดปากไม่ให้นายคาชอกกีส่งเสียงดัง จนกระทั่งนายคาชอกกีเสียชีวิต จากนั้น หนึ่งในทีมก็สวมชุดของนายคาชอกกีออกจากสถานกงสุลไป

ปฏิกิริยาต่างชาติ

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากลต่างๆ อย่างฮิวแมนไรท์สวอทช์ (HRW), แอมเนสตี้ อินเทอร์เนชั่นแนล (AI), ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) และคณะกรรมการปกป้องผู้สื่อข่าว (CPJ) ได้ร่วมกันเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาสืบสวนสอบสวนคดีนายคาชอกกี โดยระบุว่า หากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายคาชอกกีจริง การสอบสวนนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมากที่สุด

ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า คำอธิบายของซาอุดีอาระเบียเป็นการอำพรางและโกหก แม้ก่อนหน้านี้ จะระบุว่าเขาเชื่อว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ดไม่ได้รับสั่งให้สังหารนายคาชอกกี และแม้นายทรัมป์จะเปรยว่าอาจมีการคว่ำบาตรด้วยการระงับข้อตกลงซื้อขายอาวุธ แต่สหรัฐฯ ก็อาจได้รับผลกระทบมากกว่าซาอุดีอาระเบีย

ส่วนอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า การเสียชีวิตของนายคาชอกกีน่าตกใจและเรียกร้องคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยระบุว่า ไม่มีอะไรจะสามารถสร้างความชอบธรรมให้กับการสังหารครั้งนี้ และทั้ง 3 ประเทศขอประณามการกระทำนี้

อย่างไรก็ตาม ประเทศพันธมิตรของซาอุดีอาระเบีย ทั้งคูเวต อียิปต์ บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่สามารถจัดการคดีนี้ได้เป็นอย่างดี

ที่มา : BBC, Al Jazeera

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :